ครั้งหนึ่งที่ผมอ่านข้อมูลบันทึกของมิชชั่นนารีท่านหนึ่งว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาได้ไปถึงที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแอฟริกา หัวหน้าเผ่าของหมู่บ้านที่นั่นซึ่งได้รับความรอดหลายปีมาแล้ว แต่เขาไม่ได้รู้พระวจนะคำของพระเจ้ามากนัก เพื่อที่จะบอกแก่คนในเผ่าของเขาที่เหลือว่า “จะได้รับการบังเกิดใหม่ได้อย่างไร?” ดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นอธิษฐานต่อพระเจ้าว่า “ขอทรงโปรดส่งใครบางคนมาเพื่อเขาจะนำคนในเผ่าของเขามาถึงพระเจ้าได้”
ตามที่หัวหน้าเผ่าได้อธิษฐานขอนั้น พระเจ้าได้ให้หัวหน้าเผ่าเห็นนิมิต ในนิมิตนั้นได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งมาที่หมู่บ้าน เทศนาสั่งสอนข่าวประเสริฐ และหลายคนในหมู่บ้านนั้นก็ได้รับการบังเกิดใหม่ หลายปีผ่านไปหลังจากที่หัวหน้าเผ่านั้นเห็นนิมิต ในที่สุดมิชชั่นนารีคนที่หัวหน้าเผ่าได้เห็นในนิมิตนั้น ก็มาถึงหมู่บ้าน คำพูดแรกที่ออกจากปากหัวหน้าเผ่านั้นคือ “คุณคือคนที่เรากำลังรออยู่มานานแล้ว คุณคือคนนั้นที่ผมเห็นในนิมิตเมื่อหลายไปมาแล้ว แต่อะไรทำให้คุณใช้เวลานานจัง? หลายคนในหมู่บ้านนี้ต้องตายจากไปโดยที่เขาไม่ได้รู้จักพระเยซู ทำไมคุณถึงใช้เวลานานมากกว่าจะมาถึงที่นี่? มิชชั่นนารีท่านนั้นมีสีหน้าที่รับรู้และสำนึกได้ เขากลับใจสารภาพต่อพระเจ้า ว่า เพราะเขายืดเวลาและใช้เวลาของเขาในการหาคำตอบของการทรงเรียกในชีวิตของเขา เขาควรจะมาเร็วกว่านี้ แต่เขาเลือกตัดสินใจที่จะทำอะไรอย่างอื่นก่อน เขาต้องการที่จะมั่นใจว่า ทุกๆสิ่งที่มองเห็นในฝ่ายธรรมชาติดูถูกต้องเหมาะสม ก่อนที่เขาจะออกไปทำงานพันธกิจเดินทาง แต่เขากลับพลาดเวลาของพระเจ้าและผลก็คือ คนอื่นๆต้องทนทุกข์ทรมานกับผลที่ตามมา มิชชั่นนารีท่านนั้นเล่าว่า เมื่อตอนที่เขาสารภาพกลับใจต่อพระพักตร์พระเจ้า ในหูของเขาได้ยินแต่เสียงของหัวหน้าเผ่าก้องอยู่ในหูสองข้างของเขาว่า “อะไรทำให้คุณใช้เวลานานจัง? อะไรทำให้คุณใช้เวลานานจัง?”
เพื่อนที่รัก หัวใจของผู้คนที่ถูกแยกออก(จากพระเจ้า)ในทุกๆที่กำลังร้องไห้สำหรับการช่วยเหลือ และการสิ้นยุคก็มาใกล้แล้ว ขอให้ค้นหาอย่างมุ่งมั่นที่รู้เวลาของพระเจ้าสำหรับคุณที่จะเคลื่อนออกไปรับใช้ อาจจะไม่เคยมีเสียงพูดกับคุณว่า “อะไรทำให้คุณใช้เวลานานจัง?”
ในการตอบการทรงเรียกและการเตรียมตัวเข้าสู่การรับใช้ เป็นการเดินทางโดยความเชื่อจริงๆ แต่การเข้าหาพระเจ้าเพื่อจะค้นหาเวลาของพระองค์(ไม่ใช่เวลาของเรา)ก็สำคัญด้วย ให้วางความเชื่ออย่างมั่นคงไว้กับพระเจ้า พร้อมกับสร้างความคิดจิตใจของคุณขึ้นมาว่า พระเจ้ากับคุณทำงานเป็นทีมเดียวกัน พระคำของพระเจ้าและพระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวคุณจะช่วยเหลือและคอยนำทางคุณ ไม่มีอะไรที่จะทำให้คุณไม่ประสบความสำเร็จในการรับใช้ได้ คุณจะสามารถเสร็จสิ้นเส้นทางของคุณด้วยความชื่นชมยินดีและการเต็มล้นในการทรงเรียก
(ข้อความตอนหนึ่งจากหนังสือ Called of GOD ของ Rev.Kenneth Hagin Junior)