ช่างไม้ชราฝีมือดีคนหนึ่ง ใกล้จะเกษียณอายุการทำงานแล้ว เขาบอกกับเจ้านายว่าอยากจะกลับบ้านไปอยู่กับลูกเมียอย่างมีความสุข เจ้านายไม่อยากให้ช่างไม้ฝีมือดีคนนี้จากไป จึงถามช่างไม้ว่าสามารถช่วยเขาสร้างบ้านอีกหลังหนึ่งได้ไหม ช่างไม้ตอบตกลง
แต่ต่อมาภายหลังทุกคนต่างก็มองออกว่าช่างไม้ชราคนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานแล้ว เขาใช้วัสดุคุณภาพต่ำในการสร้างบ้าน แล้วก็ทำงานแบบลวกๆ
เมื่อบ้านสร้างเสร็จแล้ว เจ้านายได้มอบกุญแจบ้านหลังนี้ให้เขา
“นี่คือบ้านของเจ้า” เจ้านายกล่าว “ข้าให้เจ้าเป็นของขวัญ”
ช่างไม้ตกใจจนอ้าปากค้าง และอายจนไม้รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถ้าหากเขารู้ตั้งแต่แรกว่านี่เป็นบ้านของตัวเอง เขาก็คงไม่ทำแบบนี้
ตอนนี้เขาต้องอาศัยอยู่ในบ้านราคาต่ำที่ตัวเองสร้างมันขึ้นมากับมือ ทั้งๆที่เขาได้สร้างผลงานประณีตมาทั้งชีวิต ยกเว้นแต่ผลงานชิ้นสุดท้ายนี้
ข้อคิด :
หลายครั้งเราใช้ชีวิตแบบถูไถไปวัน คิดว่าไม่สำคัญอะไร แต่พระคัมภีร์มีกล่าวไว้ว่า “มือของเจ้าจับทำการงานอะไร จงกระทำการนั้นด้วยเต็มกำลังของเจ้า” (ปัญญาจารย์ 9:10) พระคัมภีร์ยังสอนเราอีกว่า “เราหว่านสิ่งใด เราก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น” เราทุกคนจะต้องได้รับผลของการกระทำของเราทุกคน ดังนั้น เมื่อเราจะทำอะไรก็ตาม เราควรทำทุกสิ่งด้วยเต็มกำลังความสามารถของเรา
ขอพระเจ้าทรงอำนวยพรแก่ท่าน