ข้อพระคัมภีร์หลัก​    2ทิโมธี 2:1-13

ในฐานะที่เราเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกและทรงเรียก แท้ที่จริงคริสเตียนทุกคนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเต็มเวลา เรากำลังทำงานของพระเยซูคริสต์ เราทุกคนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าที่อยู่ในแต่ละอาชีพ   เราแต่ละคนก็อยูู่ในตำแหน่งและหน้าที่ที่ต่างกัน ทำหน้าที่ต่างกัน ต่างสถานที่กัน เราสามารถรับใช้พระเจ้าได้ทุกที่ ผู้ที่ทำงานก็กำลังรับใช้พระเจ้าในที่ทำงานของตน แม้คนที่สูงอายุ ไม่สะดวกในการเดินทางมาที่คริสตจักรนมัสการได้  เราก็สามารถรับใช้ในการอธิษฐานได้ แต่เราทุกคนคือผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ อ.เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อหนุนใจผู้รับใช้ของพระเจ้า เพราะอ.เปาโลทราบดีว่า ในการรับใช้นั้นต้องเจออุปสรรค และปัญหามากมาย ทำให้เราทุกคนท้อได้ แม้คนที่ดูเข้มแข็งก็ยังอ่อนแรงลงได้ ดังนั้นอ.เปาโล จึงหนุนใจในการรับใช้ให้มีกำลังดังนี้้ :

  1. จงเข้มแข็งในพระคุณที่มีอยู่ในพระคริสต์ ในพระคัมภีร์มีคำว่า “อย่ากลัวเลย” อยู่ 365 ครั้ง นั่นก็สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงใน 365 วันเรามีโอกาสเจอปัญหา และอุปสรรคแน่นอน ซึ่งทำให้เราอ่อนล้า หมดแรง ท้อแท้หรือหมดกำลังใจได้ อ.เปาโล ยกตัวอย่างคนในอาชีพต่างๆเพื่อหนุนใจผู้รับใช้หนุ่ม(ทิโมธี) ให้เข้มแข็งในการรับใช้พระเจ้า ให้มีความเข้มแข็ง ด้วยตัวอย่างบุคคล 4 แบบได้แก่ :
  • ทหาร : (ข้อ3,4) ทหารเป็นตัวอย่างแก่เราในการอดทน บากบั่น การมีวินัยในการฝึกฝน มีระเบียบ เป็นผู้ที่มีความเตรียมพร้อมเสมอ การเสียสละ พร้อมในการเชื่อฟัง และทำอย่างมีสติปัญญาเมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งทุกเมื่อ
  • นักกีฬา : (ข้อ5) นักกีฬาที่จะประสบความสำเร็จ จะต้องมีวินัยและหมั่นฝึกซ้อมสม่ำเสมอ อย่าเป็นคน “อ่อนซ้อม” และต้องสัตย์ซื่อ อยู่ในกติกาเสมอ เมื่อชนะ เราก็ได้รับรางวัลตอบแทน หากเราไม่เล่นตามกติกา ไม่อยู่ในกรอบ แม้จะชนะได้รับรางวัลแล้วก็ตาม กรรมการก็ยังมีสิทธิ์ยึดรางวัลคืนได้ ในการรับใช้และเดินกับพระเจ้าเป็นกรอบที่ให้เรามีเสรีภาพ แต่ต้องเรียนรู้ที่จะมีวินัยและต้องหมั่นฝึกฝน ฝึกซ้อมเหมือนนักกีฬาเช่นกัน
  • กสิกร : (ข้อ6) ได้แก่ ชาวไร่ ชาวนา เป็นตัวอย่างในเรื่องการหว่านและการเพียรรอคอยในการเก็บเกี่ยว หากเราหว่านมาก เราก็จะเก็บเกี่ยวได้มาก  เราเป็นคนหว่าน พระเจ้าทรงประทานฝนให้พืชผลที่เราหว่านนั้นเติบโต กสิกรที่ดีต้องทำหน้าที่ในการเก็บวัชพืช หมั่นพรวนดิน ใส่ปุ๋ย เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและเกิดผลมาก และผู้ที่ทำผู้ที่หว่านก็สมควรได้เก็บเกี่ยวก่อนเสมอ เมื่อเราเก็บเกี่ยวผลแรก เราต้องถวายผลแรกคืนพระเจ้าด้วยอย่างสัตย์ซื่อด้วย
  • พระเยซูคริสต์ : พระเยซูทรงเป็นแบบอย่าง แก่ผู้รับใช้ในความเชื่อฟัง ถ่อมใจ และอุทิศตัวและชีวิตเพื่อแผนการของพระเจ้าทั้งสิ้นให้สำเร็จ ทรงยอมลำบาก ทนทุกข์ ยอมถูกทดลอง ถูกการข่มเหง ทรงยอมบาดเจ็บ ยอมตายเพื่อถวายเกียรติแด่แผนงานของพระเจ้าเพื่อมนุษย์ทุกคน
  1. อย่าละเลยภารกิจสำคัญ ทุกคริสตจักรอย่าลืมพันธกิจหลักสำคัญ 3 ประการ คือ
  2. การสอนคน (ข้อ2) พระเยซูทรงให้ความสำคัญในการสอนคน (ใน มธ.28:19-20) สอนถ้อยคำพระเจ้า เพราะพระวจนะเป็นอาหารทิพย์อย่างดี เป็นโคมส่องทาง เป็นสติปัญญา ความเข้าใจ ทำให้เราเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า ฯลฯ
  3. การสร้างคน (ข้อ2) อ.เปาโล กำชับให้ผู้รับใช้ทิโมธีสอนผู้อื่นต่อด้วย เพื่อให้เกิดการสอนผู้อื่นต่อๆไป

    จงมอบคำสอนเหล่านั้นซึ่งท่านได้ยินจากข้าพเจ้าต่อหน้าพยานหลายๆ คนไว้กับบรรดาคนซื่อสัตย์ที่สามารถสอนคนอื่นได้ด้วย

  4. การส่งคน (ข้อ9) เพราะข่าวประเสริฐจำเป็นต้องออกๆไปทั่วโลก

    มัทธิว  24:14 “ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทั่วโลก ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง”

  5. จงอุทิศชีวิตเพื่อการรับใช้ (ข้อ11)

    “คำกล่าวนี้สัตย์จริง คือถ้าเราตายกับพระองค์แล้ว เราก็จะมีชีวิตอยู่กับพระองค์”

  6. (ข้อ12)

    “ถ้าเราสู้ทน เราก็จะได้ครองร่วมกับพระองค์ ถ้าเราไม่ยอมรับพระองค์ พระองค์ก็จะไม่ทรงยอมรับเราเช่นกัน”

  7. หลายคนไม่กล้าแม้จะประกาศตัวว่าเป็นคริสเตียน จนวันที่มีซองกฐิน ผ้าป่ามาเรี่ยไรผ่านหน้า จึงเปิดปากว่าเป็นคริสเตียน (ข้อ13) แม้เราไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าเท่าที่ควร แต่พระองค์ยังคงสัตย์ต่อเราเสมอ ทรงพร้อมให้อภัยและช่วยเราเสมอ

ดังนั้นเราจงอย่าละเลยในภารกิจหลักสำคัญที่พระเยซูทรงกำชับเราทั้งหลาย คือ การออกไปสอนคน การสร้างคน และการส่งคนออกไปประกาศข่าวประเสริฐ

ใน 1~ทิโมธี  1:12 กล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าไว้ใจได้ จึงทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าให้ทำพันธกิจของพระองค์”

พระเจ้าทรงมองเห็นว่าเราเหมาะสมที่จะทำงานของพระองค์ พระองค์จึงสั่งกำชับให้เราทำงานที่พระองค์มอบหมายด้วยความขอบพระคุณและน้อมรับด้วยความเต็มใจ ถือว่าเป็นงานที่มีเกียรติมาก ที่พระเจ้าทรงไว้วางใจให้เราทำงานของพระองค์

ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน อาเมน

(ศศกร กลิ่นส่ง ผู้สรุปคำเทศนา)