เอเฟซัส 6:21-22
เอเฟซัส 6:21-22 “…21 บัดนี้เพื่อให้ท่านได้รู้เหตุการณ์ทั้งปวงของข้าพเจ้า ว่าข้าพเจ้าเป็นอยู่อย่างไร ทีคิกัส ซึ่งเป็นน้องที่รัก และเป็นผู้ที่เอาใจใส่ปรนนิบัติในองค์พระผู้เป็นเจ้า(เป็นผู้รับใช้อันสัตย์ซื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า) จะได้บอกท่านให้ทราบถึงเหตุการณ์ทั้งปวงของเรา 22 ข้าพเจ้าให้ผู้นี้ไปหาท่าน ก็เพราะเหตุนี้เอง คือให้ท่านได้ทราบถึงความเป็นอยู่ของเรา และเพื่อให้เขาหนุนน้ำใจของท่าน…”
*มีคนหนึ่งกล่าวว่า “ผู้รับใช้พระเจ้าที่มักทำงานหลังฉากเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดการฟื้นฟูและทำให้ไฟแห่งการฟื้นฟูลุกโชติช่วงอยู่เสมอ”
ใน NT ได้ชี้ให้เราเห็นถึงชายคนหนึ่งที่รับใช้พระเจ้าที่พร้อมรับใช้อยู่เบื้องหลังและชายคนนี้มีชื่อว่า ทีคิกัส
ทีคิกัสเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว
ทีคิกัสเป็นคนที่สัตย์ซื่อ
ทีคิกัสเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง
ทีคิกัสเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกคนอื่น
*ยอห์น 9:4 “…4 เราต้องกระทำพระราชกิจของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาเมื่อยังวันอยู่ เมื่อถึงกลางคืนไม่มีผู้ใดทำงานได้…”
*จากเอเฟซัส 6:21-22 เราจะมาศึกษาถึงลักษณะชีวิตและการรับใช้ของ ทีคิกัส ด้วยกัน
- “ทีคิกัสเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว” = “เป็นน้องที่รัก”
*เอเฟซัส 6:21 “ทีคิกัส ซึ่งเป็นน้องที่รัก”
ทีคิกัส : ผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อของพระเจ้า
*ทำให้เรารู้ว่า อ.เปาโลรักทีคิกัสอย่างสุดใจ อย่างไม่มีเงื่อนไข
*เป็นเพราะทีคิกัสก็รักคนอย่างอ.เปาโลอย่างสุดใจ ไม่มีเงื่อนไข
*ทีคิกัสเป็นคนที่ไม่ว่าจะทำอะไรแล้ว ก็จะทำทุกสิ่งอย่างสุดจิต สุดใจ
*เมื่อเขาจะตัดสินใจสิ่งใด เขามักจะถามถึงคนอื่นก่อนเสมอ “ถ้าฉันทำสิ่งนี้แล้ว คนนั้นคนนี้จะได้รับประโยชน์หรือไม่ เขาจะเติบโตขึ้น รักพระเจ้ามากขึ้นหรือไม่?”
*มีสาวกจำนวนมากในเมืองนั้น เขาได้รับบัพติศมาด้วย HS และกลายเป็นสาวกที่ร้อนรนและร้อนแรงของ JC
*ดังนั้นเมื่ออ.เปาโลมาที่เมืองเอเฟซัส ได้สังเกตเห็นว่า พวกเขาเป็นผู้เชื่อที่ยังขาดฤทธิ์เดชอำนาจ ขาดความกระตือรือร้นและขาดความเชื่ออย่างแรงกล้า
*อ.เปาโลรู้ว่า พวกเขาต้องการ HS ของพระเจ้าที่จะเข้ามาและทำงานในชีวิตของพวกเขา เหมือนที่ JC ได้ตรัสไว้
กิจการ 1:7-8 “…7 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ไม่ใช่ธุระของท่าน ที่จะรู้เวลาและวาระซึ่งพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้ โดยสิทธิอำนาจของพระองค์ 8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่านและท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”…”
กิจการ 20:4 “…4 คนที่ไปกับเปาโลคือโสปาเทอร์บุตรของปีรัสชาวเมืองเบโรอา อาริสทารคัสกับเสคุนดัสชาวเมืองเธสะโลนิกา กายอัสชาวเมืองเดอร์บีและทิโมธี ทีคิกัสกับโตรฟีมัส ชาวแคว้นเอเชีย…”
สุภาษิต 17:17 “…17 มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก…”
- “ทีคิกัสเป็นคนที่สัตย์ซื่อ” = “เป็นผู้รับใช้อันสัตย์ซื่อ”
*เอเฟซัส 6:21 “ทีคิกัส ซึ่งเป็นผู้รับใช้อันสัตย์ซื่อ”
*เมื่ออ.เปาโลบอกว่า เขาเป็นคนสัตย์ซื่อนั้น ท่านกำลังหมายความว่า เขามีความเพียรทนได้ต่อทุกสิ่ง
*ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Faithful” = Full of Faith in everything
- “ทีคิกัสเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง” = “เป็นผู้ที่เราส่งไปหาท่าน”
*เอเฟซัส 6:22 “ทีคิกัส ซึ่งเป็นผู้ที่เราส่งไปหาท่าน”
*คุณสมบัติของผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อมีอะไรบ้าง
– Perseverance = ความเพียรพยายาม
*มัทธิว 16:24-25 “…24 ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามาให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา 25 เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด…”
– Patience = ความอดทนพยายาม
*กิจการ 2:42 “…42 เขาทั้งหลายได้ขะมักเขม้นฟังคำสอนของจำพวกอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม ทั้งขะมักเขม้นในการหักขนมปังและการอธิษฐาน…”
Progress = ความก้าวหน้า
*2 โครินธ์ 3:17-18 “…17 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ที่ไหน เสรีภาพก็มีอยู่ที่นั่น 18 แต่เราทั้งหลายไม่มีผ้าคลุมหน้าแล้ว จึงแลดูพระสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า และตัวเราก็เปลี่ยนไปเป็นเหมือนพระฉายขององค์พระผู้เป็นเจ้า คือมีศักดิ์ศรีเป็นลำดับขึ้นไป เช่นอย่างศักดิ์ศรีที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นพระวิญญาณ…”
- “ทีคิกัสเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกคนอื่น” = “เขาหนุนน้ำใจของท่าน”
*เอเฟซัส 6:22 “ทีคิกัส ซึ่งเขาหนุนน้ำใจของท่าน”
คนที่จะมีความรักต่อคนอื่นๆได้ จะต้องมีความ “ไวต่อความรู้สึกต่อคนอื่น”เป็นพื้นฐาน
จะต้องเป็นอะไรๆที่มากกว่าการรู้ว่า ณ เวลานี้คุณกำลังรู้สึกอย่างไร แต่พร้อมที่จะสนองตอบต่อความรู้สึกนั้นในทันที โดยเฉพาะในเรื่องของการ “หนุนน้ำใจ”
กิจการ 9:31 “…31 เหตุฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลีและสะมาเรียจึงมีความสงบสุขและเจริญขึ้น ประพฤติตนด้วยใจยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า และด้วยรับความหนุนใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตสมาชิกก็ยิ่งทวีมากขึ้น…”
ยูดาห์ 1:24 “…24 ขอพระเกียรติ พระอานุภาพ ไอศวรรย์ และศักดานุภาพ จงมีแด่พระองค์ผู้ทรงสามารถคุ้มครองรักษาท่านมิให้ล้มและทรงนำท่านให้ตั้งอยู่เฉพาะพระสิริของพระองค์ ให้ปราศจากตำหนิและมีความร่าเริงยินดี คือแด่พระเจ้าองค์เดียว พระผู้ช่วยให้รอดของเรา โดยพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทั้งในอดีตกาล ปัจจุบันกาลและในกาลต่อๆไปเป็นนิตย์ อาเมน…”