(สดด.107)
ทุก ๆ ชีวิตไม่ว่าเป็นคต.หรือไม่ก็ตามต่างต้องเผชิญกับปัญหาความทุกข์ยากลำบากกันทุกคน ใน
ยก.1:2 “2… เมื่อท่านทั้งหลายประสบความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี”
ความยากลำบากที่เราเผชิญนั้น เมื่อท่านผ่านไปด้วยดีก็จะเกิดผลดีตามมา แต่ถ้าท่านเผชิญได้ไม่ดี ก็จะเกิดผลเสียตามมาเช่นกัน เราต้องให้พระเจ้าช่วยเราในการเรียนรู้ถึงวิธีที่จะผ่านปัญหาเหล่านั้นได้ถูกวิธี ดูจากชีวิตที่เป็นแบบอย่างของชาวอิสราเอล ซึ่งก็มีทั้งสอบไม่ผ่านต้องตกอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และตายที่นั่น ส่วนที่รอดออกมาแล้วได้ครอบครองแผ่นดินคานาอันตามพระสัญญา เมื่อนานเข้าก็ติดกับพระพรที่พระเจ้าทรงมอบให้ แต่ไม่ได้คิดถึงผู้ที่ประทานพรให้ ซึ่งต้องให้ความสำคัญสูงสุด จนกระทั่งเขาหันไปมองสิ่งต่าง ๆ รูปเคารพต่างๆ ที่มีเต็มไปหมดของโลกใบนี้ ในที่สุดเขาก็ทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังในสายตาพระเจ้า ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยนานอยู่ 70 ปี ไร้แผ่นดิน ไร้ความสงบ
ดังนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องมาเรียนรู้ถึงเคล็ดลับในการเผชิญความทุกข์ยาก ซึ่งในความทุกข์ยากนั้น ก็มีสิ่งดี ๆ ที่ซ่อนอยู่ โดย เอสรา ซึ่งผ่านการตกไปเป็นเชลยมา เขาจึงเขียนสดด.107นี้จากประสบการณ์จริงของเขา ข้อมูลที่เขียนนั้น บ้างก็ได้จากการบอกเล่าจากบรรพบุรุษเกี่ยวกับช่วงอยู่ในถิ่นทุรกันดารว่าเป็นอย่างไร ? และเมื่อมาอยู่คานาอันเป็นอย่างไร ? และทำไมเขาต้องมาถูกกวาดต้อนเป็นเชลย และสภาพการเป็นเชลยเป็นอย่างไร ? เอสราเขียนขึ้นมาเพื่อให้ชาวอิสราเอลขับร้องเพื่อจะระลึกถึงพระคุณของพระเจ้า
สิ่งแรกที่เราต้องตระหนักถึงคือ ทุกสิ่งที่มีเหตุเกิดขึ้นก็ต้องมีผลตามมาเสมอ และทุกความยากลำบากเกิดขึ้นมันก็ต้องมีที่มาของเหตุนั้นเช่นกัน ให้เรามาดูจากพระวจนะที่บอกถึงที่มาของปัญหาอยู่ 4 แหล่งด้วยกันคือ
แหล่งที่ 1 [ชีวิตที่หลงทาง]
ข้อ4-5 “บ้างก็พเนจรอยู่ในป่าในที่แห้งแล้ง หาไม่พบทางที่จะเข้านครซึ่งพอจะอาศัยได้ 5หิวโหยและกระหาย …”
การหลงทางในป่าในที่แห้งแล้งนั้นส่วนใหญ่ตายลูกเดียว และการหลงทางนั้นย่อมมาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด นั่นเพราะมีทางให้เลือกมากกว่าหนึ่งทาง ในชีวิตเรามีเรื่องให้เราต้องเลือกตัดสินใจเสมอ และถ้าเลือกผิดเราก็จะมัวหลงทางอยู่ตรงนั้น เช่น การตัดสินใจเลือกเรียนวิชาที่ผิด เลือกคู่ครองที่ผิด ชีวิตก็เกิดผลเสียผิดทิศผิดทาง
แหล่งที่ 2 [เขาถูกขังและถูกผูกมัดไว้ด้วยการติดตรวน]
ข้อ10-11 “10บ้างก็นั่งอยู่ในความมืดและเงามัจจุราช ถูกขังอยู่ด้วยความทุกข์ยากและติดตรวน 11เพราะเขากบฏต่อพระวจนะของพระเจ้า และหยามคำปรึกษาขององค์ผู้สูงสุด”
มันเป็นความน่ากลัวไม่มีอิสรภาพไปไหนไม่ได้เพราะมาจากการกบฎและดูหมิ่นคำสั่งของพระเจ้า
ยน.10:10 “10ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทำลายเสีย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์”
ในโลกนี้มี 2 อำนาจคือพระเจ้าและมาร หลายครั้งคต. ถูกหลอกว่าการเชื่อพระเจ้านั้นไม่มีอิสรภาพ ถูกห้ามสิ่งนั้นสิ่งนี้ ตามที่คนในโลกเขาทำกัน จึงไม่เชื่อฟังและหันไปยึดติดกับสิ่งที่โลกว่าเป็นสิ่งที่สวยงามน่าลองน่าทำ หารู้ไม่ว่าจิตวิญญาณของเขานั้นกำลังถูกผูกมัดติดโซ่ตรวนของมารอยู่ เมื่อเกิดเหตุขึ้น ก็จะมีผลตามมาเช่น โลกบอกว่าไม่ต้องให้อภัย แค้นนี้ต้องชำระ เป็นคนคิดเล็กคิดน้อย จนกลายเป็นทาสบาปมากขึ้น ไม่สามารถหลุดออกมาได้
แหล่งที่ 3 [การทำบาปต้องทนทุกข์ยากลำบาก] ข้อ17-18 “17… และเพราะความผิดบาปของเขา เขาต้องทนความทุกข์ยาก … และเข้าไปใกล้ประตูความตาย” เมื่อเราทำบาปสภาพจิตใจของเรามักจะพบความทุกข์ยาก และส่งผลไปทางร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณของเราด้วยหลายครั้งโรคที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นผลจากบาปที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า หลายครั้งที่เราสารภาพบาปแล้ว ผลจากการทำบาปนั้นก็ยังส่งผลอยู่ เมื่อเราหว่านสิ่งใดก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น (สดด.51:8-12) กษัตริย์ดาวิดอธิบายสภาพจิตใจของเขาเมื่อพลาดทำบาปต่อพระเจ้า)
แหล่งที่ 4 [ปัญหาจากการทำมาหาเลี้ยงชีพ การเงิน] ข้อ23-26 “…ทำอาชีพอยู่บนน้ำกว้างใหญ่ 26คนเหล่านั้นถูกซัดขึ้นไปสู่ท้องฟ้าและลงไปสู่ที่ลึก ใจของเขาฝ่อไปในเหตุการร้ายของเขา” ถ้าใจเราติดอยู่กับเงินทอง และการเลี้ยงชีพ ปัญหาก็จะถูกนำมาให้กับเรา สภาพเศรษฐกิจของโลกนี้ไม่มีความแน่นอน ชีวิตของเราก็จะไม่แน่นอนตามไปด้วย
เราควรมีท่าทีอย่างไรเมื่อเผชิญกับปัญหาทั้ง 4 แหล่งนี้ ให้เรามาดูพระวจนะพระเจ้ากัน
วิธีที่ 1 จงรับรู้ให้ดีในชีวิตเราว่าพระเจ้าประเสริฐ ข้อ 1-3 คต.เราจะเผชิญความทุกข์ยากได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับเราจะรู้จักพระเจ้าได้ดีแค่ไหนเช่นกัน ! ให้เราเรียนรู้พระลักษณะของพระองค์มากขึ้นทุกวัน
สดด.103:8-10 “พระเจ้าทรงพระกรุณาและมีพระคุณ กริ้วช้าและอุดมด้วยความรักมั่นคง”
พระองค์ไม่ปรักปรำหรือสนองตามความบาปผิดของเรา ด้วยพระเมตตาและความรักนิรนดร์ ยรม.31:3 และอ.เปาโลกล่าวว่าไม่มีใครพรากเราออกจากพระเจ้าได้ ความรักของพระองค์มีเพียงพอสำหรับเราเสมอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอะไรทั้งสิ้น
วิธีที่ 2 จงขอบพระคุณพระเจ้า ไม่ว่าจะเผชิญสภาพการณ์อย่างไร? ทุกข์ยากแค่ไหน? ข้อ8,15,21,31 และ1ธส.5:18 จงขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี
วิธีที่ 3 เราต้องเรียนรู้ที่จะถ่อมใจ ข้อ12 ปัญหาเกิดขึ้นจะทำให้เรามีท่าที 2อย่างคือ หยิ่งผยองหรือถ่อมใจ ถ้าหยิ่งพระเจ้าก็จะเหยียดหรือกดลง ถ้าถ่อมใจพระเจ้าก็จะทรงยกขึ้น (ในยก. 4:10 , สภษ.6:18)
วิธีที่ 4 ให้ถวายเครื่องบูชา ข้อ22 ,32 เป็นท่าทีในใจของเราที่ต้องรักษา หรือแก้ไขตัวเราเมื่อทำผิดบาปต่อพระเจ้า มันต้องมีการจ่ายราคา ไม่ว่าจะสารภาพ ขอโทษ หรือถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า และสรรเสริญพระเจ้าด้วยปากของเราถึงความรักมั่นคงของพระเจ้านิจนิรันดร์
การช่วยกู้จากพระเจ้าจะเกิดขึ้นในชีวิตของเราได้อย่างไร?
ข้อ 6,13,19,28 “…ในความยากลำบากของเขา เมื่อเขาร้องทูลพระเจ้า พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากความทุกข์ใจของเขา”
และฟป.4:4-7 พระองค์จะทรงช่วยกู้เราเมื่อเราร้องทูล แสวงหาคำตอบจากพระองค์ ขอพระองค์ทรงสอนและพาเราออกไปจากสถานการณ์ทุกข์ยากนี้ การช่วยกู้ในจิตใจของเราจะเกิดขึ้น หลังจากนั้นการอัศจรรย์จะเกิดขึ้น ชีวิตเขาจะอิ่มหนำไปด้วยพระคุณและการช่วยกู้ออกจากการผูกมัดในวิญญาณความมืดเสมอ เมื่อเราร้องทูลต่อพระองค์ อาเมน