ข้อพระคัมภีร์หลัก​     ฟีลิปปี 2:1-13

การที่เราจะมีความคิดเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ได้นั้น เราจะต้องทำอย่างไร? พระคัมภีร์ตอนนี้ได้บอกให้เรารู้ว่า ฤทธิ์เดชของพระเจ้าสามารถประกอบกิจในชีวิตคริสเตียนได้ คริสเตียนคนนั้นจะต้องเป็นอย่างไร?

หนึ่ง    ต้องมีความคิดอย่างเดียวกัน (ข้อ1-4)

*เราสามารถจะมีความคิดอย่างเดียวกันได้ เมื่อปฏิบัติดังนี้

  1. มองดูที่พระเยซู (ข้อ1-2) การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สามัคคีกัน จะเกิดขึ้น ถ้าเราให้พระเยซูเป็นศูนย์กลาง อ.เปาโลอาจสงสัยว่า คริสเตียนชาวฟิลิปปีได้รับ 4 อย่างนี้หรือไม่?
    – การหนุนน้ำใจจากชีวิตที่ติดสนิทในพระเยซูคริสต์
    – การเล้าโลมใจจากความรักของพระองค์
    – การสามัคคีธรรมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (การสามัคคีธรรมไม่ใช่การทานอาหารด้วยกัน การคุยกัน แต่คือการใช้ชีวิต และถ่ายทอดชีวิตให้แก่กันและกัน แบกภาระด้วยกัน ช่วยเหลือกันและกัน แล้วความรักของพระเจ้าจะปกคลุมเรา ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน)
    – การ​รัก​ใคร่​เอ็นดู​และ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​
  1. อย่าให้ตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง (ข้อ3) คือการมองเห็นแต่ความสำคัญของตนเอง การชิงดี ถือดี จะเป็นสิ่งที่ทำลายความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
    ชิงดี (selfish ambition) : ความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัว เป็นวิญญาณแห่งการแข่งขันที่เห็นแก่ตัว เพราะจะต้องทำให้ฝ่ายอื่นต่ำลง ดูด้อยลง  เพื่อให้ตัวเองดูดี เพื่อผลประโยชน์และการก้าวหน้าของตนเอง นี่คือ การชิงดี คือให้ตัวเองเด่นคนเดียวโดยไม่นึกถึงคนอื่นๆเลย และเราต้องกำจัด “การถือดี”ออกด้วย
    ถือดี (vain conceit) : หมายถึงเกียรติยศที่ว่างเปล่า ส่วนใหญ่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องตำแหน่ง อำนาจ ทรัพย์สินและผลประโยชน์ คนถือดีคือคนที่ไม่ยอมรับความคิดเห็นหรือคำแนะนำของผู้อื่น ถือว่าเราอยู่ในตำแหน่งสูงแล้วคนอื่นต้องฟังฉันเท่านั้นเป็นท่าทีที่ผิด
  1. ให้คิดถึงคนอื่นๆด้วย (ข้อ4) เราควรคิดว่าถ้าคนอื่นมาทำหน้าที่แทน เราควรให้การสนับสนุนด้วยความยินดี ให้โอกาสผู้อื่นด้วย เราควรเสริมสร้างคนรอบข้างให้มีส่วนในการปรนนิบัติรับใช้มากขึ้น มองที่ความต้องการของผู้อื่น

*พระคัมภีร์ตอนนี้ได้บอกให้เรารู้ว่า ฤทธิ์เดชของพระเจ้าสามารถประกอบกิจในชีวิตคริสเตียนได้ คริสเตียนคนนั้นจะต้องเป็นเหมือนอย่างพระเยซู

สอง   พระเยซูทรงสำแดงหนทาง (ข้อ5-8)

*พระคัมภีร์ตอนนี้ได้สำแดงถึงหลักการของ พระเยซูในการปรนนิบัติผู้อื่น

  1. พระเยซูดำเนินชีวิตเป็นตัวอย่าง (ข้อ5) พระเยซูรักแม้ศัตรูคือยอมตายเพื่อทุกคนที่เป็นคนบาป
  2. การยอมจำนนของพระเยซู (ข้อ6-7) ยอมก้มลงล้างเท้าให้กับคนที่ทรยศพระองค์คือ ยูดาส สาวกที่ทรยศพระองค์
  3. การเสียสละของพระเยซู (ข้อ8) พระเยซูเสียสละพระองค์เอง เพื่อโดนเฆี่ยนตี โดนแทงด้วยหอก ถูกตรึง จนถึงความมรณาบนกางเขน

*พระคัมภีร์ตอนนี้ได้บอกให้เรารู้ว่า ฤทธิ์เดชของพระเจ้าสามารถประกอบกิจในชีวิตคริสเตียนได้ คริสเตียนคนนั้นจะต้องเข้าใจ….

สาม   พระบิดาทรงให้เกียรติพระบุตร (ข้อ9) พระบิดาให้เกียรติพระบุตรอย่างไร?

  1. ประทานพระนามสูงสุดแก่พระเยซู เหนือนามใดๆ (ข้อ9) เอเฟซัส 1:20-22
  2. การยกย่องสูงสุด (ข้อ10-11) ฟิลิปปี 2:10-11

*ฟิลิปปี 2.10-11 “…10 เพื่อ​เพราะ​พระ​นาม​นั้นทุก​เข่า ใน​สวรรค์ ที่​แผ่นดิน​โลก ใต้​พื้น​แผ่นดิน​โลก จะ​คุก​ลง​กราบพระ​เยซู​ 11 และ​เพื่อทุก​ลิ้น​จะ​ยอมรับว่า​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า อัน​เป็น​การ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​บิดา​เจ้า…”​

จง​มีความคิด​เหมือน​อย่างที่​มี​ใน​พระ​เยซู​

*มัทธิว 28.18 “…18 ​ พระ​เยซู​จึง​เสด็จ​เข้า​มา​ใกล้​แล้ว​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ฤทธานุภาพ​ทั้งสิ้น​ใน​สวรรค์​ก็​ดี ใน​แผ่นดิน​โลก​ก็​ดี​ทรง​มอบ​ไว้​แก่​เรา​​แล้ว”…”​

สี่ พระเจ้าทรงประกอบกิจในคนของพระองค์ (ข้อ12-13) ถ้าเรามีความคิดอย่างพระเยซู มีชีวิตที่เชื่อฟัง

*อ.เปาโลได้ท้าทายให้คริสเตียนในเมืองฟิลิปปีได้นำการดำเนินชีวิตแบบพระเยซูมาปฏิบัติทั้งทางวาจาและการปฏิบัติ ท่านอ.เปาโลได้เตือนอะไรพวกเขาบ้าง?

  1. ได้เตือนพวกคริสเตียนให้เชื่อฟังต่อไปและทำงานหนักเพื่อความรอด (ข้อ12)
  2. ได้เตือนว่า ความรอดเป็นผลงานของพระเจ้าไม่ใช่ของเราเอง (ข้อ13)

ให้เรามีความคิดและดำเนินชีวิตอย่างพระเยซู เพื่อพระเจ้าจะทรงประกอบกิจในชีวิตของเราได้

ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน อาเมน

(ศศกร กลิ่นส่ง ผู้สรุปคำเทศนา)