ข้อพระคัมภีร์หลัก โรม 10:15
มีนักพูดท่านหนึ่ง ถามที่ประชุมว่าใครอยากได้แบงก์หนึ่งร้อยเหรียญนี้บ้าง เกือบทุกคนยกมือ แล้วเขาก็ขยำแบงก์นั้นแล้วถามว่าใครอยากได้อีกไหม ก็ยังมีคนยกมือ แล้วเขาก็ได้เหยีบยยำ่แบงค์นั้นแล้วถามอีกว่าใครยังต้องการแบงค์นี้อีกหรือไม่ ก็ยังมีคนยกมือเหมือนเดิม คุณได้เรียนรู้จากตัวอย่างนี้ว่า ไม่วืาผมจะทำอะไรกับแบงก์นี้ แต่คุณค่าของแบงก์น้ั้นก็ยังเหมือนเดิม
เช่นเดียวกันในการรับใช้ คุณอาจถูกเหยียบย้ำ โดนดูถูกจากคนอื่น แต่ในสายพระเนตรพระเจ้า เรายังมีค่าเสมอ
อย่าเอาการรับใช้เมื่อวันวานมากำหนดการรับใช้ในอนาคต การรับใช้ของเราไม่ขึ้นกับคำพูดของมนุษย์ ไม่ขึ้นกับคำชม หรือคำตำหนิ แต่ถ้าการรับใช้ของเรามีจุดอ่อนก็ควรฟังผู้อื่น พระคัมภีร์ได้บอกให้เรารู้ชัดเจนว่า พระเจ้าทรงเห็นคุณค่าของพันธกิจการรับใช้ของคต.ทุกคน
พระเจ้าให้คุณค่าการรับใช้ เพราะ…
หนึ่ง พระเจ้าให้เกียรติกับพันธกิจการรับใช้
โรม 10.15 “…15 และถ้าไม่มีใครใช้เขาไป เขาจะไปประกาศอย่างไรได้ ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา ช่างงามจริงๆหนอ…”
แม้เท้าจะเป็นสิ่งที่ต่ำที่สุด แต่ในสายพระเนตรของพระเจ้า เท้าที่นำ ข่าวประเสริฐของพระเจ้า ช่างงามจริงหนอ พระเจ้าทรงให้คุณค่า และให้เกียรติแก่ผู้ที่รับใช้พระเจ้า เพราะขนาดเท้าที่คนมักรังเกียรติแต่พระเจ้าทรงเห็นว่างามจริง แล้วส่วนอื่นๆในร่างกายพระเจ้าจะไม่ทรงเห็นคุณค่าว่างดงามหรือ?
อิสยาห์ 52.6-7 “…6 เหตุฉะนั้น ชนชาติของเราจะรู้จักชื่อของเรา เพราะฉะนั้นในวันนั้น เขาจะรู้ว่าคือเรานี่แหละผู้พูด เราอยู่ที่นี่ 7 เท้าของผู้นำข่าวดีมา ก็งามสักเท่าใดที่บนภูเขา ผู้โฆษณาสันติภาพ ผู้นำข่าวดีของเรื่องดี ผู้โฆษณาความรอด ผู้กล่าวแก่ศิโยนว่า “พระเจ้าของเจ้าทรงครอบครอง”…”
*พระคัมภีร์ อิสยาห์ 52.6-7 ตอนนี้ได้อธิบายให้เราทราบว่า ใครคือผู้ที่รับใช้ด้วยการประกาศข่าวดี/ข่าวประเสริฐของพระเจ้า
1.1 คนที่บอกเรื่องราวข่าวดีของพระเจ้า
1.2 คนที่โฆษณาสันติภาพ
1.3 คนที่นำข่าวดีของเรื่องดี
1.4 คนที่โฆษณาความรอด
1.5 คนที่ประกาศการทรงครอบครองของพระเจ้า
สอง พระเจ้าให้พระกรุณา/พระคุณต่อผู้รับใช้พันธกิจ
*2 คร 4.1-12 “…1 เพราะเหตุที่เรามีพันธกิจนี้โดยได้รับพระกรุณา เราจึงไม่ย่อท้อ 2 เราได้ละทิ้งเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ที่น่าอับอายไปหมดสิ้นแล้ว เราไม่ทำกลอุบายและไม่ได้พลิกแพลงพระกิตติคุณของพระเจ้า แต่โดยสำแดงสัจจะ เราเสนอตัวเราให้กับจิตสำนึกผิดชอบของคนทั้งปวงจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า 3 แต่ถ้ามีม่านบังข่าวประเสริฐของเราไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ…”
*2 คร 4.4-6 “…4 ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่ให้เขาได้เห็นความสว่างของข่าวประเสริฐ เรื่องพระสิริของพระคริสต์ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า 5 เราไม่ได้ประกาศตัวเราเอง แต่ได้ประกาศพระเยซูคริสต์ว่าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และประกาศตัวเราเองเป็นทาสของท่านทั้งหลายเพราะเห็นแก่พระเยซู 6 เพราะว่าพระเจ้าองค์นั้นผู้ได้ตรัสสั่งให้ความสว่างออกมาจากความมืด ได้ทรงส่องสว่างเข้ามาในจิตใจของเรา เพื่อให้เรามีความสว่างแห่งความรู้ถึงพระสิริของพระเจ้า ปรากฏในพระพักตร์ของพระคริสต์…”
*2 คร 4.7-9 “…7 แต่ว่าเรามีของมีค่านี้อยู่ในภาชนะดิน เพื่อให้เห็นว่า ฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง 8 เราถูกขนาบรอบข้าง แต่ก็ไม่ถึงกับกระดิกไม่ไหว เราจนปัญญาแต่ก็ไม่ถึงกับหมดมานะ 9 เราถูกข่มเหงแต่ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง เราถูกตีลงแล้ว แต่ก็ไม่ถึงตาย …”
*2 คร 4.10-12 “…10 เราแบกความตายของพระเยซูไว้ที่กายเราเสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูจะปรากฏในกายของเราด้วย 11 เพราะว่าพวกเราที่มีชีวิตอยู่นั้น ต้องถูกมอบไว้แก่ความตายอยู่เสมอ เพราะเห็นแก่พระเยซู เพื่อว่าพระชนม์ชีพของพระเยซูจะได้ปรากฏในเนื้อหนังของเรา ซึ่งจะต้องตายนั้น 12 เหตุฉะนั้นความตายจึงกำลังออกฤทธิ์อยู่ในท่านทั้งหลาย…”
พระเจ้าให้พระกรุณา/พระคุณต่อผู้รับใช้พันธกิจ เมื่อ…
2.1 เราต้องทิ้งเล่ห์เหลี่ยมของมนุษย์ในการประกาศข่าวประเสริฐ
2.2 เราต้องไม่พลิกแพลงพระกิตติคุณของพระเจ้า
2.3 เราต้องเข้าใจว่าพระยุคนี้ทำให้ใจของคนมืดบอด
*ตัวอย่าง : ลูกา บทที่ 15:3-32 กล่าวถึง 4 หายเป็นตัวแทนของมนุษย์ในโลกนี้
ข้อ 3-7 แกะหาย : โดยที่รู้ตัวว่าตัวเองหาย : กลับไม่ถูก
ข้อ 8-10 เหรียญหาย : โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองหาย : กลับไม่ถูก
ข้อ 11-24 บุตรน้อยหาย : โดยที่รู้ว่าตัวเองหาย : กลับถูกและกลับเอง
ข้อ 25-32 บุตรคนโตหาย : โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองหาย : ไม่ยอมกลับ
2.4 เราต้องไม่ประกาศตัวเอง แต่ประกาศพระกิตติคุณของพระเจ้า (ยอห์น 3.30, มัทธิว 10:42)
2.5 เมื่อเรามีความสว่างแห่งพระสิริ
2.6 พระเจ้าให้พระกรุณาโดยให้ผู้รับใช้มีฤทธิ์เดช
สรุป ในการรับใช้ อาจถูกเหยียบยำ้ โดนดูถูก จากคนอื่น แต่ในสายพระเนตรพระเจ้า เรายังมีค่าเสมอ อย่าเอาการรับใช้เมื่อวันวานมากำหนดการรับใช้ในอนาคต จงให้เกียรติกับงานรับใช้เพราะพระเจ้าทรงให้เกียรติกับผู้ที่รับใช้ของพระองค์์เสมอ ดังพระวจนะคำที่ว่า ” เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา ช่างงามจริงๆหนอ…”
ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน อาเมน
(ศศกร กลิ่นส่ง ผู้สรุปคำเทศนา)