(มัทธิว 24:3-14)

ตอน  “แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด”

พระเยซูคริสต์ได้พยากรณ์ไว้จากข้อ 3-8 ว่าสำเร็จแล้วนั้น ไม่ว่าจะเกิดสงครามหรือการกันดารอาหารฯ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และยังคงเกิดขึ้นได้อีกในปัจจุบันหรืออนาคต แบบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความรักก็เยือกเย็นลง ในปัจจุบันมียาเสพติดใหม่เกิดขึ้นมากมายและร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นคำเตือน คต. ที่จะเตือนตัวเองและลูกหลานได้ดีว่าอย่ายืนในที่นั่งของคนอธรรม หรือไปสมาคมกับคนบางกลุ่มที่ไม่ควรสมาคมเพราะถ้าเขาไม่ระวังชีวิต สิ่งชั่วร้ายก็สามารถเกิดขึ้นกับเขาได้เช่นกัน

ชีวิตคริสเตียนจะรอดพ้นจากสิ่งล่อลวงเหล่านี้ได้นั้นต้องอาศัยคุณลักษณะของความอดทนที่ถูกฝึกบ่อยๆ ครั้งแล้วสอบผ่านมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเป้าประสงค์ของพระเจ้า เพราะถ้าผู้ใดอดทนจนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอดได้ และนั่นก็แปลว่าถ้าใคร ไม่มีความอดทนนั้นย่อมยากที่จะรอดได้ หรือไม่รอด เพราะคำว่า “อดทน” นั้นแปลว่า ขันติ เป็นการอดทนต่อทุกสิ่ง ทุกๆอย่าง เป็นคุณลักษณะของความเชื่อ เป็นคุณธรรมในชีวิตที่เขาจะกระทำดีได้ เป็นคุณสมบัติในจิตใจเพื่อพร้อมจะทนในทุกสถานการณ์ได้อย่างไม่หวั่นไหวเป็นพลังมหาศาลที่ทำให้คนนั้นประสบความสำเร็จได้

คำว่า “อดทน” ในพระคัมภีร์มีกล่าวไว้มาหมาย กท 5-ซึ่งเป็นผลของพระวิญญาณว่า ความอดกลั้นใจ เป็นส่วนหนึ่งของความอดทน ถ้าอดกลั้นใจได้บ่อยครั้งในเรื่องเดียวกันก็จะเกิดความอดทน และยังแสดงถึงความข่มใจ หักห้ามใจ ได้บ่อยครั้งควบคุมตนเอง เหล่านี้เป็นการแสดงออก ถึงความอดทนทั้งสิ้น และใน 1 คร 13 –ได้กล่าวถึงคุณลักษณะของความรักนั้นก็ต้องมีมีความอดทนนาน ทนได้ทุกอย่างและทนต่อทุกอย่างด้วย นั่นหมายความว่าไม่มีความอดทนอดกลั้น นั่นก็ไม่มีผลของพระวิญญาณ ใจ คส1:9-11 กล่าวว่าถ้าเราไม่มีความอดทน เราก็ไม่สามารถเป็นคนที่เจริญเติบโตฝ่ายวิญญาณได้ “เพื่อท่านจะได้ดำเนินชีวิตอย่างสมกับที่เป็นคนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจะได้เป็นที่พอพระทัยในทุกด้าน คือ เกิดผลในการดีทุกอย่าง รู้จักพระเจ้าดียิ่งขึ้น ได้รับการเสริมสร้างที่เข้มแข็งขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจทั้งมวลตามฤทธานุภาพอันทรงเกียรตติสิริของพระองค์ เพื่อท่านจะทรหดอดทนบากบั่น จงอดทนบากบั่นให้ถึงที่สุดเพื่อท่านจะเติบโตเต็มที่และสมบูรณ์เพียบพร้อมและไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย” ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยฝึกความอดทนให้กับเรานั้น คือความทุกข์ยากลำบาก ได้บันทึกอยู่ใน รม 5:3 ,12:12 ยก5:10 และ 2ทธ4:5  แต่บทอื่นๆใช้คำว่าการทดลองในชีวิต”

ในยากอบได้กล่าวถึงความทุกข์ยากในชีวิตคริสเตียนที่แตกต่างจากเราในยุคปัจจุบัน เพราะความทุกข์ยากของเรา คือความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ความสะดวกสบาย การหาเลี้ยงชีพ แต่สมัยพระคัมภีร์ความทุกข์ยากของเขาคือการถูกข่มเหงเพราะเชื่อพระคริสต์และการประกาศข่าวประเสริฐ พวกเขาต้องได้รับความอยุติธรรมของสังคม รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส บางคนถึงแก่ชีวิตจากการถูกเฆี่ยนตี พวกเขาต้องถูกทรมานให้แบบสุดๆเพื่อจะได้ปฏิเสธพระคริสต์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ คต. เหล่านั้น เขากลับมีความเชื่อที่เข้มแข็งมากขึ้น และข่าวประเสริฐกลับขยายมากขึ้น พวกเขาได้ผ่ายชีวิตของความอดทนจนถึงที่สุดแล้ว พวกเขาต้องจ่ายราคาสูง (รม5:3) แต่ในทางกลับกัน คต. ปัจจุบันคือ ต้องได้พระพร ต้องได้ในสิ่งที่ต้องการ ถ้าไม่ได้ก็พร้อมที่จะหันหลังให้กับพระคริสต์ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะ คต.ยุคก่อนเขาได้สอบผ่านตามพระวจนะคือ พวกเขาได้ทนจนถึงที่สุดแล้ว เขาก็รอด

ใน รม12:9-12 กล่าวถึงความทุกข์ยากของการอยู่ร่วมกันในพี่น้องของพระคริสต์ และความทุกข์ยากของความเจ็บป่วย เป็นความทุกข์ยากที่จะฝึกความอดทนของ คต. เช่นกัน เพราะถ้าเขาไม่มีความเชื่ออดทนและรอคอยการรักษาของพระเจ้าจนถึงที่สุด เขาก็อาจไม่รอดได้ ใน 2ทธ4:5 เป็นอีกวิธีที่อ.เปาโลได้หนุนใจทิโมธีให้เขาอดทนในความยากลำบาก (endure)แปลว่า ทนทาน อดทน ยืนยงชั่วกาลนาน ซึ่งใช้สำหรับการรับใช้พระเจ้า เป็นการฝึกการอดทนได้ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง เพราะการรับใช้พระเจ้ายากที่จะมีคำชม แต่มากสำหรับคำติ ไม่ว่าหน้าที่ใดก็ตาม ต้องใช้ความอดทนสูง เพราะถ้าไม่ ก็ไม่รอดเหมือนกัน

อีกความอดทนคือ การดำเนินชีวิต เพราะบางครั้งก็อาจต้องอดทน นี่ก็เป็นความทุกข์ที่อาจเกิดขึ้นกับ คต. เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าความทุกข์ใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เราก็ต้องฝึกฝน พยายาม อดทน อดกลั้น จนให้ผ่ารนถึงที่สุดให้ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว เราอาจไม่รอดได้ เราควรฝึกฝนร่างกายของเราตามพระวจนะของพระเจ้า เช่นการฝึกอดอาหารอธิษฐาน การจัดเวลาอย่างมีระเบียบวินัยแน่วแน่ในการอธิษฐาน และศึกษาพระวจนะของพระเจ้าเป็นต้น

สุดท้ายขอพระเจ้าทรงช่วยเหลือเราทุกๆคน ที่จะมรคุณลักษณะของความอดทน คือเราจะไม่กลัวอะไรที่จะเข้ามาเผชิญหน้า  ไม่กลัวอุปสรรค ไม่บ่นต่อว่า ไม่หงุดหงิดโมโหร้าย เพียรรอคอยด้วยความอดทนทุกอย่าง จนถึงที่สุด เพื่อเราจะสามารถร่วมครองกับพระคริสต์ได้ (2ทธ2:12) ต้องมีความอดทนที่จะปฏิบัติตามพระวจนะของพระเจ้าได้(วว14:12)และมีความอดทนแบบโยบเพื่อจะสามารถรับพระพรจากพระเจ้าได้(ยก5:11) ขอบคุณพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์