โรม 13:11-14
การจะทำความดีในสมัยนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ยากขึ้น ยิ่งเทคโนโลยีก้าวไกลเท่าไรกิเลสตัณหาของมนุษย์ก็ถูกพัฒนายิ่งแย่ลง การโกหก การหลอกลวง การใส่หน้ากากเข้าหากัน ทุกความสัมพันธ์ก็เพื่อผลประโยชน์ การเห็นแก่ตัว กระทำตามใจปรารถนาโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่นทำให้ มีภัยรอบด้านต่างๆมากมาย เราฐานะผู้เชื่อจะต้องปฏิบัติอย่างไร
1.การดำเนินชีวิตโดยพึ่งพากำลังจากพระเจ้า
อาจารย์เปาโลเตือนเราใน เอเฟซัส 5:15 เหตุฉะนั้นท่านจงระมัดระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าเหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา ให้ดำเนินชีวิตโดยมีปัญญา คนที่มีปัญญามาจากพระเจ้าก็เหมือนเรามีดวงตาที่สมอง ผู้เชื่อต้องพึ่งพาพระเจ้าทุกๆเรื่องให้มีกำลังขึ้นในการกระทำตามคำสอน เพราะการพึ่งพาโดยยึดคำสอนแต่ไม่พึ่งพาพระเจ้าก็ไม่ต่างจากศาสนาอื่นการพึ่งพาตัวเองก็นำไปสู่ความผิดหวังความผิดพลาด คริสเตียนจึงแตกต่างจากศาสนาพระวจนะของพระเจ้าสำหรับผู้เชื่อเท่านั่นไม่ใช่ทูตสวรรค์ โรม 5:6 ขณะเมื่อเรายังขาดกำลัง พระคริสต์ก็ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยคนบาปในเวลาที่เหมาะสมมนุษย์เราขาดกำลังในการทำความดี คิดที่จะทำดีแต่ทำไม่ได้ด้วยเหตุนี้พระเยซูคริสต์จึงทรงมาสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน ทุกสิ่งในชีวิตคริสตเตียนจึงไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ถ้าพึ่งพาพระองค์ ฟิลิปปี 4:13 ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า ผู้ที่กระทำตามพระวจนะของพระองค์จะเต็มไปด้วยฤทธิ์เดชมาจากพระเจ้า พระองค์ทรงรักสัญญาว่าจะอยู่กับเราจนกว่าจะสิ้นยุค พระองค์จะไม่ทิ้งเรา โรม 8:37 แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย พระเจ้าจะใช้สถานณ์การณ์ต่างๆมากมายที่จะให้เราเลิกพฤติกรรมนิสัยที่ไม่ดีต่างๆให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ไม่มีอะไรที่พระองค์ทรงกระทำไม่ได้เพียงแต่เชื่อพึ่งพาพระองค์ให้พระองค์ทรงนำ
2.ประพฤติตัวให้เหมาะสมสำหรับกลางวัน
กลางวันหมายถึง ความสว่าง ความดี เอเฟซัส 5:8 เพราะว่าเมื่อก่อนท่านเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างแล้วในองค์พระผู้เป็นเจ้า สิ่งแรกที่เราจะเดินในทางสว่างได้เรานั้นต้องละทิ้งเลิกการเดินในทางของความมืดเสียก่อน ยอนห์ 8:12 อีกครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า เราเป็นความสว่างของโลก เราจะเดินในทางสว่างได้โดยเดินตามทางของพระเยซูคริสต์ เราต้องเรียนรู้ในทางของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นความสว่าง คนที่เดินกับพระองค์จะไม่พบทางตัน มัทธิว 11:28-30 บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเราเพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาวะองเราก็เบา เราจะหายเหนื่อยและเป็นสุขสิ่งแรกเราต้องมาหาพระเยซู แล้วเรียนศึกษาจากพระองค์เป็นแฟนพันธ์แท้องค์พระองค์ เรียนรู้ทุกเรื่องของพระองค์เพราะไม่มีทางไหนจะนำเราไปสู่ความสว่างได้ ความสว่างสามด้าน 1. ใจ 2.วาจา 3.การกระทำ ปากกับใจ การกระทำต้องตรงกัน สุภาษิต 4:23 จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้านเพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ ใจคืออะไร ฟิลิปปี 4:8 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ของจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ทรงคุณ คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญก็ขอจงใคร่ครวญดู ใจคือความคิด ให้เราใคร่ครวญ พระวจนะ ใคร่ครวญสิ่งที่ดี สิ่งดีๆๆก็จะเกิดขึ้นกับเรา กษัตริย์ดาวิดได้กล่าวว่า สดุดี 1:2 แต่ความปิติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า ภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าสถานณ์การณ์จะเป็นอย่างไรให้เรายืดพระคำของพระเจ้าไม่ไปตามสถานณ์การณ์ที่เป็นอยู่ เพราะพระคำของพระเจ้าเป็นฤทธิ์เดช เป็นความจริงทั้งสิ้นเราจึงมีฤทธิ์ พระวจนะของพระเจ้าประสงค์ให้เรามีจิตใจ โคโลสี 3:12-14 ให้พระวจนะของพระเจ้ามาลบล้างจิตใจ คำที่ไม่เป็นสาระพูดเล่นไม่เป็นเรื่องเราต้องรับผิดชอบ คำหยาบคาย คำที่ทำลายจิตใจ คริสเตียนไม่ควรใช้ปากเป็นอาวุธ แต่เป็นภาชนะของพระเจ้า ให้พระเจ้าช่วยเราเรื่องปากคำพูดที่เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า