อ่านตอนที่ 1 ได้ที่นี่
ข้อพระคัมภีร์หลัก ฮีบรู 6:16-20

พระเจ้าที่เรารู้จักเมื่อตอนที่แล้วคือ” พระเจ้าทรงยุติธรรม” ไม่ว่าเราจอยู่ในสถานการณ์ใด หรือ อยู่ในปัญหาใด พระเจ้าทรงยุติธรรมเสมอ แต่สำหรับมนุษย์แล้วไม่มีความยุติธรรม แม้แต่ในครอบครัวการดูแลเอาใจใส่ตัวลูกยังไม่เท่ากัน พ่อแม่อาจให้ความสำคัญหรือดูแลลูกคนโต และคนเล็กเป็นพิเศษ โดยละเลยลูกคนกลาง ความไม่ยุติธรรมจึงเกิดขึ้น แต่เมื่อเรามองดูที่พระเจ้าเราจะพบความยุติรรมอย่างแน่นอน และ”พระเจ้าทรงรักษาพระสัญญาเสมอ” ในข้อที่ 16 พระเจ้าทรงยืนยันพระสัญญาของพระองค์

พระลักษณะของพระเจ้าที่เราจะกล่าวถึงในลำดับที่ 3 ต่อไปคือ “พระเจ้าทรงไว้วางใจได้” เพราะ…

พระเจ้าไม่ตรัสมุสา

ข้อ 16 และข้อ 17 พระสัญญาของพระเจ้าไว้วางใจได้ เพราะพระเจ้าไม่ตรัสมุสา (ไม่โกหก) ยิ่งไปกว่านั้นพระองค์ยังทรงยืนยันพระสัญญาด้วยคำสาบานอีก เราจึงยิ่งมั่นใจได้แน่ว่า สิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับเรานั้นเป็นจริงอย่างแน่นอน

พระเจ้าทรงสัญญาสิ่งใดไว้ พระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จเสมอ

ข้อ 18 พระเจ้าทรงสัญญาสิ่งใดไว้ พระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จเสมอ แต่มนุษย์มักทำผิดสัญญาเสมอ แม้กระทั่งการสัญญากับตัวเองก็ผิดสัญญาอยู่บ่อยๆ พระเจ้าไม่เคยผิดสัญญา เราสามารถดูตัวอย่างได้จาก

ปฐมกาล 12:2 เรื่องราวของอับราฮัมกับนางซาราห์ที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้ว่าพระองค์จะประทานบุตรให้ และให้ชนชาติของเขาเป็นชนชาติใหญ่ แม้ขณะนั้นอับราฮัมจะอายุ 75ปี และซาราห์อายุ 65ปี แล้วก็ตาม เขาไม่มีทางมีลูกได้แน่นอน แต่พระเจ้าได้ทรงทำให้สำเร็จตามที่พระองค์สัญญาไว้กับอับราฮัม

ในวันนี้พระเจ้าได้ทรงตรัสอะไรไว้กับคุณ พระองค์ก็จะทรงทำให้สำเร็จเช่นกัน เมื่อเรามองที่พระเจ้า(ไม่ใช่สถานการณ์หรือสิ่งที่เรามองเห็นด้วยตา) ชีวิตเราจะเปลี่ยนแปลงแน่นอน เมื่อเราเชื่อฟังพระสัญญาของพระเจ้าและเชื่อในพระสัญญาของพระองค์

พระเจ้าทรงให้ความหวังกับเรา

ข้อ 19 พระเจ้าทรงให้ความหวังกับเราในที่พระองค์ทรงสถิต พระเจ้าไม่เคยตรัสมุสาและพระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง (กดว.23:19, มลค.3:6, ยก.1:17)  พระเจ้ารักท่านและต้องการอวยพรท่าน พระองค์ต้องช่วยเราในทุกสถานการณ์ แต่ท่านจะต้อง

  • เรียนรู้ที่จะวางใจพระเจ้า ให้ความสุข ความชื่นใจอยู่ในเรา
  • เรียนรู้เวลาของพระเจ้า ไม่ใช่เวลาของเรา เราไม่สามารถกำหนดตารางเวลาของพระเจ้าด้วยตารางเวลาของเราเอง
  • สัตย์ซื่อต่อหน้าที่ที่พระเจ้าให้เราทำ

พระเจ้าทรงให้เราวางใจในพระเยซู 

ข้อ 20 พระเจ้าทรงให้เราวางใจในพระเยซู ให้พระเจ้าเป็นกษัตริย์ เป็นองค์จอมเจ้านายในชีวิตของเราทุกวันทุกเวลา ไม่ใช่แค่ตอนอธิษฐานเพื่อขอจากพระองค์เท่านั้น ใน

มธ.11:29-30 29จงเอาแอกของเราแบกไว้   แล้วเรียนจากเรา   เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม   และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก 30ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ   และภาระของเราก็เบา

ให้เราเรียนรู้จากพระเยซู วางใจในพระเจ้า ทำดีแม้กับคนที่ไม่น่ารักกับเรา พระองค์เป็นแบบอย่างในการปรนนิบัติผู้อื่น แม้การล้างเท้าของสาวกพระองค์ยังทำให้สาวกได้ (ยน.13:14-15) พระเยซูเป็นแบบอย่างในการยอมทนทุกข์เพื่อผู้อื่น พระองค์ยอมทนทุกข์เพื่อเรา (1ปต.2:21)

พระเยซูทรงสำแดงให้เราเห็นว่า แม้พระองค์ยังถ่อมใจลงล้างเท้าให้สาวก และยอมทนทุกข์เพื่อเรา หากในการดำเนินชีวิตของเรา เราอาจต้องทนทุกข์ยากเพื่อผู้อื่นบ้างก็ไม่ควรท้อ แต่ให้เราอดทน และหากเราดำเนินชีวิตในความถ่อมใจ เหมือนกับพระเยซูทรงถ่อมพระองค์เป็นแบบอย่างให้กับเรา ขอพระเจ้าทรงช่วยเหลือเราที่จะดำเนินชีวิตที่มองดูที่พระเจ้าอย่างแท้จริง

ขอพระเจ้าอวยพระพร


ศศกร กลิ่นส่ง
( ผู้สรุปคำเทศนา )