ข้อพระคัมภีร์หลัก ฮีบรู 10:26-29
หลายครั้งเรามักชอบฟังว่า พระเจ้าทรงเป็นความรัก มีพระเมตตา และทรงสัตย์ซื่อ ดังที่เคยพูดถึงพระลักษณะของพระเจ้าใน
ฉธบ.7:9 พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมเสมอ ถ้าเรารักและดำเนินตามพระบัญญัติของพระองค์
วันนี้เราจะพูดถึงข้อตักเตือนในการดำเนินกับพระเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติตาม
ข้อ 26-28 “ฮีบรู 10:26 เพราะถ้าเรายังจงใจทำบาปอยู่เรื่อยๆ หลังจากได้รับความรู้เรื่องความจริงแล้ว ก็จะไม่มีเครื่องบูชาลบบาปเหลืออยู่เลย”
ในข้อนี้ได้กล่าวว่าถ้าเราเรียนรู้ถ้อยคำ แล้วไม่ทำตามก็ต้องตกอยู่ในความหวาดกลัวในการพิพากษา ดังนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้ถ้อยคำและปฏิบัติตาม และต้องปฏิบัติตามทั้งหมด ไม่ใช่แค่ครึ่งเดียวหรือบางส่วน แค่เราไม่ทำทั้งหมดเราก็เป็นคนจงใจทำบาปแล้ว แล้วเรามักจะแก้ตัวว่าเราอ่อนแอ อย่าซ่อนบาป อย่ายุ่งเกี่ยวกับความบาป และเราต้องจัดการอย่างเด็ดขาด พัฒนาการของความบาปตั้งแต่สมัยปฐมกาล อาดัม เอวา คือการโกหกและการโทษผู้อื่น
มีพระคัมภีร์กล่าวเตือนเราเรื่องการระวังไม่ให้กลับไปทำบาปหรือยุ่งเกี่ยวกับความบาปอีก เช่น 2ปต.2:20 ; มธ.12:43:45 ; ยก.4:17 แม้จะมีข้อพระคัมภีร์ใน 1ยน.1:9 เรื่องการสารภาพบาปก็ตาม แต่ถ้าเราจงใจทำบาปอยู่เรื่อยๆ เครื่องบูชาลบบาปก็ไม่มีผลอะไรเลย
ข้อ 27 “ฮีบรู 10:27 แต่จะมีความหวาดกลัวในการรอคอยการพิพากษาและไฟอันร้ายแรง ซึ่งจะเผาผลาญบรรดาศัตรู“
บอกว่า ถ้าเราจงใจทำบาป เราจะตกอยู่ในความกลัวของการพิพากษา
ข้อ 29 “ฮีบรู 10:29 แล้วพวกท่านคิดดูซิว่าคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และถือว่าพระโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์นั้นเป็นมลทิน และดูหมิ่นพระวิญญาณแห่งพระคุณ สมควรจะถูกลงโทษหนักกว่าสักเท่าใด”
เขาได้ปฏิเสธพระบุตรของพระเจ้า ก็เท่ากับเป็นคนที่เหยียบย่ำพระโลหิตของพระเยซู หรือการดำเนินอยู่ในบาปของเราก็เป็นเหมือนการเพิกเฉย เท่ากับเป็นการดูหมิ่น หรือเหยียบย่ำพระโลหิตของพระเยซู พระเยซูมาไถ่เราที่กางเขน และปลดปล่อยเราทุกอย่าง และทรงให้เราพ้นจากฤทธิ์อำนาจของบาปทั้งสิ้น เมื่อเรารู้ว่าสิ่งใดไม่ดี เราต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ทำบาปกับพระเจ้า พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ถ้าเราสัตย์ซื่อกับพระองค์ พระเยซูทรงทำให้เราแล้ว แต่ถ้าเรายังอยู่กับบาปก็เหยียบย่ำและปฏิเสธพระโลหิตของพระเยซู ใน ฉธบ.28:1-15 ได้พูดถึงพระสัญญาของพระเจ้าเมื่อเราเชื่อฟัง พระเจ้าจะทรงอวยพรผู้ที่รักพระองค์ และเชื่อฟัง ประพฤติปฏิบัติตามและรักษาพระบัญญัติของพระองค์ ในข้อ 29 พระคัมภีร์เตือนเราว่า การเหยียบย่ำพระโลหิตของพระเยซู และการดูหมิ่นพระวิญญาณแห่งพระคุณ จะมีโทษหนักกว่าสักเท่าไร (พระคัมภีร์สนับสนุน เพิ่มเติม มธ.12:31-32; มก.3:28-30)
ในวันนี้ที่เราได้เรียนรู้ ให้เราดำเนินชีวิตที่เป็นผู้ที่ตักเตือนได้ รับฟังการตักเตือนจากพระเจ้า ให้เราเลิกทำบาป และไม่เพิกเฉยต่อบาป ไม่เหยียบย่ำ ให้เราดำเนินในทางของพระเจ้า ประพฤติปฏิบัติตามพระวจนะของพระเจ้า และเราทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเราต่อพระเจ้า ให้เราดำเนินด้วยความยำเกรงในพระเจ้า
ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน อาเมน
(ศศกร กลิ่นส่ง ผู้สรุปคำเทศนา)