พระคัมภีร์หลัก: ฮีบรู 9:15-22

พระเจ้าได้ทำพันธสัญญากับเราที่เชื่อในพระเยซูและผู้ที่ยังไม่เชื่อพระองค์ทรงรักเราโดยที่ให้พระเยซูหลั่งโลหิตเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเรา  ใน1ซมอ.18:1-3 เป็นตัวอย่างของการทำพันธสัญญาระหว่างดาวิดกับโจนาธานเป็นเรื่องของบุคคล 2 ฝ่าย จริงจังเช่นเดียวกับพระเยซูได้ใช้ชีวิตของพระองค์เอง โจนาธานก็เสียสละอะไรบางอย่างเพื่อพันธสัญญาเช่นกัน พวกเราที่เชื่อในพระเยซูเมื่อพระเจ้าทำส่วนของพระองค์แล้วและสิ่งที่เราต้องทำส่วนของเราก็คือ

  1. เราต้องมีการคำนวณต้นทุน พันธสัญญาเป็นเรื่องจริงจัง พระเยซูให้ชีวิตแก่เรา ในส่วนของเราก็ต้องอุทิศชีวิต ไม่ใช่แค่มานมัสการหรือสละเวลาวันอาทิตย์เท่านั้นแต่หมายถึงการจ่ายราคาสำหรับที่พระเยซูสละชีวิตเพื่อเรา มีตัวอย่างของแม่(หลี่เอี้ยนเสีย)  ที่เธอทุ่มเททุกอย่างเพื่อลูกขณะที่เธอ ยากจนลูก ( เจิ้นผิง) ของเธอก็ตอบสนองกับสิ่งที่แม่ทำโดยไม่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยหรือมีอาการน้อยใจ แต่มีชีวิตสมกับที่แม่ทุ่มเทยอมจ่ายราคาเพื่อลูก ๆจึงได้ดีเพราะเห็นคุณค่า เช่นเดียวกับเราต้องเห็นคุณค่าที่พระเยซูจ่ายราคาเพื่อเราโดยที่ต้องเข้าใจกับการเดินไปกับพระองค์ จุดเริ่มต้อนก็คือเชื่อฟังในการมาคริสตจักรอย่างถูกต้อง
  2. ตัวอย่างดาวิดและโจนาธานมีการแลกเปลี่ยนเสื้อคลุม หมายถึงการเปลี่ยนตัวตนของกันและกัน พระเยซูทรงแลกเปลี่ยนเสื้อคลุมคือสวมเสื้อแห่งความบาปแทนเราและเราก็ต้องสวมความชอบธรรมของพระองค์และพระสิริที่พระองค์ให้แก่เรา คือ เปลี่ยนแปลงชีวิตอดีตที่ไม่ดีทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นความน้อยใจ รากขมขื่นทุกอย่างให้ หมดเข้าใจ – เรียนรู้ – รับสิ่งใหม่ๆที่พระเจ้าให้เรา อย่ามีข้อแก้ตัว ให้มีมุมมองใหม่อย่างพระเยซู ที่ได้จ่ายราคาเพื่อเราแล้วเราแค่อุทิศตัวที่จะรับจากพระเจ้า อย่าให้พระเยซูหลั่งเลือดเปล่าๆหลุดจากอดีตที่เจ็บให้ใส่เสื้อคลุมใหม่ของพระเจ้า สิ่งที่สอง แลกเปลี่ยนเข็มขัด คือสัญลักษณ์ของการแลกเปลี่ยนกำลัง พระเยซูรับความอ่อนแอของเราไปแล้วเรามีกำลังของพระเจ้า มีกำลังในการชนะการล่อลวงมีกำลังต่อสู้ ชนะความบาปผิด ครั้งแรกที่เราเชื่อพระเยซูเพราะการตัดสินใจของเราเองและตอนนี้เราต้องใช้วิธีการของพระเจ้าไม่ใช่ของเราเพราะเราเป็นของพระองค์ไม่ใช่ของเราเองแล้ว   ทั้งหมดนี้เราทำได้ก็ต้องรู้ รู้ได้ก็ต้องอ่านพระวจนะ เพื่อจะเข้าสู่มาตรฐานของพระเจ้า และรับกำลังของพระเจ้า ความอ่อนแอของเราอยู่ที่กางเขนแล้ว สิ่งที่สามแลกเปลี่ยนอาวุธ คือการแลกเปลี่ยนศัตรู ๆไม่ใช่คนข้างข้างเราแต่เป็นมาร ๆเป็นศัตรูของพระเจ้ามันไม่ชอบเมื่อเราอยู่กับพระองค์แต่พระเยซูชนะบนไม้กางเขนแล้วเราก็ชนะภายใต้พระเยซู ในพระธรรมเปโตรบอกว่าถ้าเราต่อสู้กับมารแล้วมันจะหนีเราไป สำคัญก็คือเราต้องต่อสู้แล้วเราจะอยู่ฝ่ายชนะ
  • พระเยซูทรงจ่ายราคาเพื่อเราตั้งแต่อาดัมล้มลงในบาป พระองค์ยินดีที่จะทำให้เรา ส่วนของเราก็คือ จงรักภักดีต่อพระเจ้าอย่าเอาแต่ใจตัวเอง ความจงรักภักดีคือ ยอมที่จะจ่ายราคาเพื่อสมกับที่พระองค์ทรงทำ จงรักภักดีและเข้าใจถึงการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง
  • เราจะมีความเข้มแข็งทันทีเมื่อเราตัดสินใจที่จะยกโทษ ขอโทษ เราจะเป็นอิสระที่จะเชื่อฟังพระเจ้าไม่ว่าจะถูกตอบสนองอย่างไรและทุกอย่างจะโล่ง เพราะตัวเราจะถูกปล่อยออกจากความโกรธเราจะเปลี่ยนและเห็นความจริงตามถ้อยคำ

สิ่งเหล่านี้ที่พระเจ้าให้เราทำเราจะรู้ต่อเมื่อเราได้เรียน-อ่านพระคัมภีร์แล้วเราจะมองออกว่าเกิดขึ้นเพื่ออะไรในชีวิตเราเอง สิ่งใหญ่ๆในชีวิตทีเกิดเราจะรับพระพร ไม่ใช่สาละวนกับสิ่งหยุมหยิม

อสย.49:16 เมื่อเราเจออะไรกำลังของพระเจ้าจะเป็นกำลังของเรา และการต่อสู้ที่แท้จริงจะเป็นการต่อสู้ของพระเจ้า เพียงเราเข้าใจเชื่อฟัง นี่คือกุญแจแห่งชัยชนะเหนือสถานการณ์ เหนือชีวิต ไม่มีอะไรกักขังเราได้ เมื่อเราทำตามพระเจ้า  อีกสิ่งที่เป็นกุญแจคือ การยกโทษทุกสิ่งทุกคนที่คิดว่าไม่ยุติธรรมกับเรา เลิกเก็บความเจ็บ วันนี้เราต้องเป็นคนหนึ่งที่อภัยง่ายๆ

  1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมเครื่องบูชาแล้ว
  2. พระเยซูถุกเฆี่ยนตีบนพระกายแล้ว

มีหัวใจที่ไม่กักขังอะไรไว้ แล้วท่านจะพบความสุข สันติสุข ทั้งกายและใจ และเข้าสู่พันธสัญญาอย่างแท้จริง และดำเนินชีวิตที่ถูกต้องอย่างแท้จริง….อวยพรขอพระเจ้า