“เหตุฉะนั้น​ขอ​อย่า​ได้​ละ​ทิ้ง​ความ​ไว้​วาง​ใจ​ของ​ท่าน ซึ่ง​จะ​ได้​รับ​บำ‌เหน็จ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่”    (ฮบ.10:35)

จากบทเรียนครั้งที่แล้ว ไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน ผู้เชื่อในพระเจ้าทุกคนต่างก็ต้องผ่าน และเจอความยากลำบากกันทั้งสิ้น  ความอดทนนั้นเป็นคุณสมบัติของชีวิตคริสเตียน และต้องรวมความไว้วางใจในพระเจ้าเข้าไปในชีวิตคริสเตียนด้วย

ในภาษากรีกนั้น การไว้วางใจ หมายถึง ใจกล้า หรือมั่นใจ  เราต้องมีใจที่กล้าหาญ หรือต้องมีความมั่นใจในพระเจ้า (ฮบ.3:14, ฮบ.4:14)   ถ้าเราไม่มีสัมพันธภาพที่ลึกซื้งกับพระเจ้า  เราก็จะไม่สามารถวางใจได้  เปรียบเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่วางใจในพ่อแม่เสมอ ในทุก ๆ เรื่อง โดยไม่ต้องกังวลเลย  และตัวอย่างที่ดีคนหนึ่งในพระคัมภีร์คือ ชีวิตของโยเซฟ  (ปฐก.37:5-11)  เขาเป็นบุตรที่ยาโคบรักมาก เพราะเกิดจากหญิงที่ตนรักมากที่สุดจากภรรยา 4 คน และมีลูกมาแล้ว10 คน  ได้ถูกเอาใจใส่อย่างดีพิเศษเสมอ  นี่เป็นภาพพื้นฐานที่โยเซฟจะถูกอิจฉาโดยพี่ของเขาอยู่แล้ว (ข้อ12-28)  ในช่วงนั้นโยเซฟ อายุ 17 ปี พระเจ้าได้ประทานความฝันและนิมิต และเขาได้แบ่งปันความฝันนั้นกับคนในครอบครัวของเขาเอง สิ่งที่เกิดทันทีหลังจากการแบ่งปันความฝันคือ เกือบถูกฆ่าตายจากความอิจฉาของพี่ๆ แต่สุดท้ายถูกขายไปเป็นทาส (39:1-5) ไม่มีคำใดที่เป็นการโอดครวญต่อว่าพระเจ้าเลย แต่ด้วยความรักของพระเจ้าที่มีอยู่เหนือเขา จะทำอะไรก็สำเร็จ เป็นที่โปรดปรานของนายคือ โปทิฟาร์ให้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของเขา พระเจ้าทรงโปรดอวยพรนายด้วยเนื่องจากโยเซฟ

ก่อนที่เป้าหมายจะสำเร็จนั้น พระเจ้าทรงมีขั้นตอนที่จะฝึกฝนพัฒนาเราจากภายใน จากความฝันที่ได้รับเกิดเป็นผลทันทีหรือไม่ ! เปล่าเลย มันยังมีอุปสรรคที่จะขัดเกลาเปลี่ยนแปลงชีวิตเราให้ดีงาม  พร้อมกับการรับใช้ที่ยิ่งใหญ่ข้างหน้า  (ข้อ6-20)  ด้วยหน้าตาดีรนูปงาม ถูกวางแผนจากภรรยาของนายให้ไปหลับนอนด้วย แต่โยเซฟไม่ยอม จึงถูกกลั่นแกล้งให้ไปติดคุก แต่เขาไม่เคยร้องไห้คร่ำครวญตั้งคำถามว่าทำไม ? ไม่น้อยเนื้อต่ำใจ ไม่พูดแง่ลบ ไม่เคยบ่นไม่ว่าสถานการณ์ใด ๆ (ข้อ21-23)   แต่พระเจ้าทรงอยู่กับโยเซฟทรงสำแดงความรักมั่นคงที่นั่น โปรดให้พัสดี รักเขาและมอบตำแหน่งดูแลของท่านให้กับเขา ลองคิดดูตอนนั้นเขายังเด็ก เป็นนักโทษ อยู่คนเดียวห่างไกลครอบครัวหรือประเทศของตนเอง และไปอยู่ที่ไหนเขาก็ถูกใช้ให้ทำงานหนัก  แต่ประสพความสำเร็จทั้งสิ้น งานที่ดูแลคนในคุกนั้นก็แสนยากลำบากเพราะเขายังเด็กแต่รับตำแหน่งแทนพัสดีดูแลทุกอย่างในคุก กับคนที่เป็นนักโทษที่มีความโหดร้ายได้ทุกรูปแบบ  และนี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่จะพิสูจน์ว่าโยเซฟไว้วางใจพระเจ้าหรือเปล่า  ?

ความยากลำบากเป็นเรื่องที่เราต้องเข้าใจใหม่ไม่ว่าจะเกิดจากเราทำเอง หรือคนอื่นกระทำให้เรา เราต้องเรียนรู้เผชิญกับสิ่งนั้น ๆ ด้วยความอดทนและความไว้วางใจในพระเจ้าที่จะดูแลและปกป้องเรา ดังที่อ.บิล ย้อนท์กล่าวว่า “ในวันเหล่านั้นที่ยากลำบาก ล้วนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยว่าในเวลานั้นนั่นเอง ที่เหล่าผู้ชนะเลิศถูกสร้างขึ้น  ถ้าหากคุณรุกต่อไปข้างหน้าในวันที่ยากลำบากเหล่านั้นได้แล้วละก็  คุณก็สามารถผจญได้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง วันทั้งหลายที่ยากลำบากที่สุด ที่รอพวกเราอยู่เบื้องหน้านั้น จะเป็นวันทั้งหลายที่ดีที่สุดของพวกเรา ถ้าเราดูวิธีของพระเจ้า พระองค์ฝึกคนของพระองค์จากสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งสิ้น  เพราะในเวลาเช่นนั้น เราได้ถูกฝึกให้แข็งแกร่งจากภายในของเราที่จะสู้ศึก กับปัญหาทุกรูปแบบได้”

(สดด.19:11,มธ.5:12) “..การรักษาพระบัญญัติและชื่นชมยินดีในพระเจ้าก็ได้รับบำเหน็จอันยิ่งใหญ่”

(ฮบ.11:26) “โมเสสทิ้งทุกสิ่งในราชบัลลังก์ของอิยิปต์ในฐานะเจ้าชาย”

(กท.6:8) “..คนที่หว่านเนื้อหนังก็เก็บเกี่ยวความเปื่อยเน่าของเนื้อหนังนั้น แต่ถ้าตอบสนองพระวิญญาณ ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณ”

ชีวิตของโยเซฟเป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องกฎเกณฑ์และตารางเวลาของพระเจ้า  เมื่อเขาไว้วางใจในพระเจ้าเขาก็ได้รับบำเหน็จอันยิ่งใหญ่ในชีวิต สุดท้ายเขาก็ได้รับตำแหน่ง อำนาจการปกครองในแผ่นดินอิยิปต์(ปฐก.40-41) ถ้าเราเจอปัญหา จงยินดีเถอะ เพราะในปัญหาเหล่านั้นเราจะพบสิ่งดี ๆ แน่นอน  โยเซฟได้ผ่านปัญหาอันยากลำบากอย่างยอดเยี่ยม มีความไว้วางใจในพระเจ้าที่ตรัสผ่านความฝัน เขาฝันตั้งแต่อายุ 17 ไม่ท้อถอย ไม่เลิกลา ไม่บ่น  และในเวลาที่เหมาะสมเขาได้ก้าวไปตำแหน่งสูงสุดถึงความฝันที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่เขา  (42-45) มีการกันดารอาหารเกิดขึ้น และพี่ชายทั้งหลายมาพบเขาและกราบลงถึงดินต่อโยเซฟ โยเซฟไม่ได้โกรธพวกเขาเลยแต่กลับปลอบโยนพี่ๆ กล่าวว่าพระเจ้าได้เตรียมชีวิตของเขาเพื่อที่จะช่วยเหลือทุกคนในวันนี้

อ.ซินดี้ กล่าวว่า “ความทุกข์ยากลำบาก จากการถูกทดสอบของวันนี้  คือคำพยานอันยิ่งใหญ่ของวันพรุ่งนี้  คุณจะถูกทำให้สมบูรณ์แบบได้  โดยผ่านในสิ่งที่คุณต้องทนทุกข์กับมัน  จิตวิญญาณของคุณอาจจะอ่อนล้า  และจำเป็นที่จะต้องได้รับการเสริมกำลังเรี่ยวแรงขึ้น  แต่การถูกทำให้สมบูรณ์แบบนั้น  จำเป็นอย่างขาดไม่ได้”  อ.ลินนี่ เบรอส กล่าวว่า “ทางเลือกเพียงประการเดียวของพวกเรานั้นคือ  การไว้วางใจในพระเจ้าและไหลไปตามความคิดของพระองค์  และวิถึของพระองค์  ไม่สำคัญมันจะไร้ซึ่งความสะดวกสะบายแค่ไหนก็ตาม  พระองค์รู้ดีทีเดียวเลยว่า พวกเราจำเป็นจะต้องมีสิ่งใด  และจำเป็นที่จะต้องมีเมื่อไหร่อีกด้วย  และเราจะได้รับรางวัลถ้าเราไม่เลิกลากลางคันเสียก่อน”  ขอให้ทุกคนผ่านการฝึกฝนนี้ได้จริงๆ ทุกความทุกข์ยากสร้างคน  แต่ถ้าเราไม่มีความอดทนและไว้วางใจ โดยมีสัมพันธภาพกับพระเจ้านั้นเราก็ไม่อาจจะประสพความสำเร็จผ่านความทุกข์ยากนั้นได้….ขอบคุณพระเจ้า