ข้อพระคัมภีร์หลัก ฮีบรู 7:20-28
พระเยซูทรงเป็นมหาปุโรหิตที่เต็มไปด้วยชัยชนะ
ในพระคัมภีร์ตอนนี้บอกเราว่า พระเยซูทรงเป็นมหาปุโรหิตที่เต็มไปด้วยชัยชนะ พระเยซูพระองค์มิใช่เป็นเพียงผู้ที่มาไถ่บาปเพื่อเราเท่านั้น แต่ขณะนี้พระองค์อยู่ที่สวรรค์พระองค์นั่งอยู่ที่ขวาพระหัตถ์(มือ)ของพระเจ้า และทรงอธิษฐานทูลต่อพระเจ้าเพื่อเรา ทำให้เรารู้ว่าเราจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆในชีวิตเราได้ เพราะเราต้องอยู่ในโลกนี้ที่เต็มไปด้วยปัญหา และอุปสรรคมากมาย ระบบของโลกนี้มีปัญหาหลายอย่าง แต่เรามั่นคงได้โดยการพึ่งพาพระเจ้า ดังนั้นการเป็นมหาปุโรหิตของพระเยซูจึงมีความหมายต่อเราอย่างยิ่ง
พระเยซูทรงเป็นความหวังที่ดีกว่า
ในข้อ 20 บอกว่า พระเยซูทรงเป็นความหวังที่ดีกว่า เพราะพระเจ้าทรงตั้งพระองค์ไว้ด้วยคำสาบาน 20 “ที่ว่าดีกว่านั้นก็เพราะว่า ปุโรหิตใหม่คนนี้พระเจ้าทรงตั้งขึ้นโดยทรงสาบานไว้” เป็นการแสดงถึงคำยืนยันที่มั่นใจได้ เพราะแค่พระองค์ตรัสหรือพูด สิ่งต่างก็จะเป็นตามที่พระองค์พูดนั้น ตัวอย่างเช่น ในปฐมกาลที่พระเจ้าทรงสร้างโลก (ปฐก. 1:3) พระเจ้าตรัส(พูด) สิ่งใดสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นตามที่พระองค์ตรัสนั้น ดังนั้นการที่พระเจ้าทรงสาบาน และปฏิญาณว่าจะไม่ทรงเปลี่ยนพระทัย จะไม่ยิ่งเป็นหลักฐานยืนยันอย่างมั่นคงหรือ? ในพระธรรม ลูกา 7:6-9 แค่พระเยซูตรัส บ่าวของนายร้อยก็ได้รับการรักษา ดังนั้นขอให้เรายืนหยัดในความเชื่อ ในพระนามอันยิ่งใหญ่ ในพระนามขององค์พระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทำหน้าที่ขอต่อพระเจ้าเพื่อให้พระเจ้าทำงานในเราและเพื่อเรา
สิ่งที่เราควรระลึกไว้เสมอว่าพระเยซูพระองค์ไม่ได้มาสิ้นพระชนม์(ตาย)บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้เราเท่านั้น พระองค์ยังทรงมีชัยชนะบนกางเขนโดยการฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมาจากความตาย ขณะนี้พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่และสถิตอยู่ที่สวรรค์ พระองค์ได้รับเกียรติจากพระเจ้าให้นั่งในตำแหน่งแห่งสิทธิอำนาจและการครอบครองสุงสุด คือที่ขวาพระหัตถ์(ขวามือ)ของพระเจ้า และพระเยซูยังทรงทำหน้าที่เป็นมหาปุโรหิตให้เรา ในการอธิษฐานทูลขอสิ่งต่างๆจากพระเจ้าเพื่อเราด้วย
การหายโรคเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับเราทุกคน แต่เนื่องจากในปัจจุบันเรามีตัวเลือกมากในการรับการรักษา บางคนคิดว่าถ้าอธิษฐานหรือวางมือแล้วไม่หาย ก็ไปหาหมอก็ได้ที่จะรักษาเรา พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระองค์เคยรักษาอย่างไร พระองค์ก็ยังทรงทำอยู่ในปัจจุบัน และไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้
ปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่พระเจ้า แต่อยู่ที่เราต่างหาก เราไม่ยึดความเชื่อไว้ เราไม่หนักแน่นมั่นคง และไม่ยึดพระสัญญาของพระเจ้าไว้ให้มั่น เราจึงพลาดหลายสิ่งจากที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับเราอย่างเฉพาะเจาะจงไป
พระเยซูทรงเป็นผู้ค้ำประกันเรา
ในข้อที่ 22 บอกไว้ว่า พระเยซูทรงเป็นผู้ค้ำประกันเรา ทำให้พระสัญญาใหม่ดีกว่าเก่า 22 “ข้อนี้กระทำให้พันธสัญญาที่พระเยซูทรงรับประกันนั้น ดีกว่าพันธสัญญาเก่าสักเพียงใด” พระองค์ทรงค้ำประกันความผิดบาปให้เรา ในความอ่อนแอของเรา ทรงรับบาปทั้งสิ้นแทนเรา และพระเยซูทรงเป็นเครื่องถวายบูชาที่ดีกว่า เราไม่ต้องถวายเครื่องบูชาไถ่บาปทุกวัน และพระเยซูได้ทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีกว่าเพื่อเรา (ฮีบรู 10:32-34, ฮีบรู 8:8, ฮีบรู 9:15, ฮีบรู 13:21) และพระโลหิตของพระเยซูมีชัยชนะ และมีฤทธิ์อำนาจในชีวิตของเราแล้ว
แต่ทำไมคริสเตียนจำนวนมากจึงยังอยู่ในความพ่ายแพ้ ในความบาป ในความเจ็บป่วย ในความอ่อนแอ บางคนแย่กว่าคนที่ไม่เชื่อพระเยซูเสียอีก? เป็นเพราะเรานั่นเอง เราไม่ได้ให้ฤทธิ์เดชของพระโลหิตของพระเยซูทำงานในเราอย่างแท้จริง เรายังไม่ได้ยอมจำนนให้พระองค์มีส่วนในชีวิตเราทั้งหมด เราควรมอบสิทธิ์ให้พระเจ้าโดย ยอมให้พระองค์เข้ามาทำงานในเราอย่างสิ้นเชิง เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในเรา หลายครั้งเรายอมให้พระเจ้าเข้ามาทำงานในเราเฉพาะในส่วนของคำอธิษฐานที่เราต้องการเท่านั้น
แต่เราไม่ต้องการให้พระเจ้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เราไม่ต้องการให้พระเจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องชีวิตส่วนตัวของเราเลย แต่พระเยซูมาไถ่เราที่กางเขน เพื่อเราจะมีชีวิตนิรันดร์และมีสันติสุขกับพระองค์ พระองค์ต้องการช่วยเรา ดังนั้นจงยอมให้พระเจ้าเข้ามาทำงานในชีวิตของเราเพื่อเราจะมีชัยชนะในทุกๆเหตุการณ์ ในทุกๆสถานการณ์ร่วมกันกับพระองค์ ให้พระเจ้าทรงได้รับเกียรติในชีวิตของเรา
พระองค์เป็นปุโรหิตที่ประสบความสำเร็จเป็นนิตย์
ข้อที่ 23-28 ได้อธิบายความเป็นปุโรหิตของพระเยซูว่า พระองค์เป็นปุโรหิตที่ประสบความสำเร็จเป็นนิตย์ และไม่หยุดหน้าที่เพราะความตาย เพราะพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ในเวลานี้พระองค์อยู่ที่สวรรค์ พระองค์ทรงทำทุกสิ่งให้เราเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และพระองค์ทรงมีฤทธิ์เสมอ ไม่จำกัด และพร้อมที่จะช่วยเหลือเราตลอดเวลา เมื่อเราอธิษฐานบอกพระองค์ และพระองค์ทรงทำพันธกิจกับมนุษย์ทุกคนในโลกนี้ (ฮีบรู 7:25) การอธิษฐานของเราเป็นการทำงานร่วมกับพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำในสิ่งที่เราทำไม่ได้ เราต้องอธิษฐานด้วยตัวเราเองไม่ใช่ให้ผู้อื่นอธิษฐานแทนเรา เพราะพระองค์ทำงานในเราและทำเพื่อเรา
พระเยซูจะทรงนำคำอธิษฐานของเราไปสู่พระเจ้า ทำให้เราได้รับคำตอบจากพระเจ้า ขอให้เราเข้าใจพระนามอันยิ่งใหญ่ของ “พระนามเยซู” พระนามแห่งชัยชนะเหนือทุกสิ่ง ให้พระนามของพระองค์ทำงานเพื่อเรา และเกิดผลอย่างเต็มเปี่ยมในเรา
ขอพระเจ้าอวยพระพร
ศศกร กลิ่นส่ง
( ผู้สรุปคำเทศนา )