พระคัมภีร์เป็นหนังสือเล่มเดียวเมื่อเราอ่านเราจะรู้ว่าเราต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเอง ดังนั้นเราควรขีดเขียนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีอาจารย์บอกว่า พระคัมภีร์สะอาด ชิวิตสกปรก พระคัมภีร์สกปรก ชิวิตสะอาด ให้จดบ้าง ไฮไลบ้าง เพราะถ้อยคำพระคัมภีร์ยิ่งค้นหาก็ยิ่งพบ ยิ่งพบก็ยิ่งรัก

คำเทศนาในอาทิตย์ที่แล้วในหัวข้อ ให้เราเลิกกิจการของความมืด แล้วมาสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดเพื่อความสว่างและหัวข้อเทศนาวันนี้คือ พระเยซูคริสต์เป็นความสว่าง  อิสยาห์ 45:7 เราปั้นความสว่างและสร้างความมืด เราทำสันติภาพและสร้างวิบัติ เราคือพระเยโฮวาห์ ผู้กระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น

ความมึดเป็นสิ่งที่ทุกๆคนกลัว เพราะกลัวสิ่งที่อยู่ในความมึด พระเยซูบอกไว้พระคัมภีร์ ยอห์น 3:19 หลักของการพิพากษามีอย่างนี้ คือความสว่างได้เข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์ได้รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะกิจการของเขาชั่ว และกิจการด้านมึดจะเริ่มเมื่อมึดเท่านั้น เช่น สีลม รัชดา ตอนกลางวันเงียบ กลางคืนมีชีวิตขึ้นทันที  แต่เมื่อท่านฟังเทศนาในวันนี้แล้วท่านจะเป็นอิสระจากโรคกลัวความมึด ท่านจะไม่กลัวมันอีกเลย เพราะเป็นเหตุผลที่พระเยซูเข้ามาในโลก พระองค์มาเพื่อปลดปล่อยท่านจากความมึด สู่ความสว่าง

มาทำความรู้จักความมึดก่อน ในภาษาฮีปรูเรียกว่า โคเชค คือ ความมึด ความโง่เขลา ความเศร้า ความทุกข์ทรมาณ การทำลาย ความชั่วร้าย ความตาย  มี 4 สิ่งที่จะพูดถึงความมึดคือ

  1. WAY (ความมึดมีทางแห่งความมึด) สุภาษิต 2:13 ผู้ทอดทิ้งวิถีแห่งความเที่ยงธรรม เพื่อเดินในทางแห่งความมืด
  2. Walk ( เดินอยู่ในความมึด ) 1ยอห์น 1:6 ถ้าเราจะว่าเราร่วมสามัคคีธรรมกับพระองค์ และยังดำเนินอยู่ในความมืด เราก็พูดมุสา และไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง
  3. work (กิจการแห่งความมึด) โรม 13:12 กลางคืนล่วงไปมากแล้ว และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้ามา เหตุฉะนั้นเราจงเลิกการกระทำของความมืด และจงสวมเครื่องอาวุธของความสว่าง
  4. ความโง่เขลาคือการไม่รู้จักพระเจ้าหรือหนทางของพระองค์

ความมึดจะกลายเป็นความสว่าง

2 ซามูลเอล 22:29 โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นประทีปของข้าพระองค์ พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ความมืดของข้าพเจ้าสว่าง

ความสว่างภาษาฮีปรู คือ โอลล์ ความหมาย  4 อย่าง

  1. ความสว่างในธรรมชาติ (ปฐมกาล 1:5) และไม่ได้มีแค่ดวงอาทิตย์เท่านั้นแต่ในจักรวาลที่พระเจ้าสร้างมีอีกมากและใหญ่กว่ามากและโลกเราเล็กมากเมื่อเทียบกับดวงดาวเหล่านั้นแต่พระเจ้ารักเรา
  2. ความสว่างที่ประดิษฐ์ขึ้น
  3. ความสว่างที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ มี 6 ครั้งในพระคัมภีร์ สามครั้งในพระคัมภีร์เดิม สามครั้งในพระคัมภีร์ใหม่ เช่น แสงสว่างในที่อยู่อาศัยอิสราเอล ,พุ่มไม้ที่มีเปลวไฟแต่ไม่ไหม้ , เสาเพลิง และ พระสิริของพระเจ้าส่องล้อมรอบคนเลี้ยงแกะ , แสงสว่างส่องล้อมรอบเซาโล , พระเยซูจำแลงพระกายทอแสงฉลองพระองค์ดุจแสงสว่าง
  4. ความสว่างในความคิดศีลธรรม

การที่เรารู้เรื่องความดีไม่ทำให้เราเป็นคนดีแต่การที่มีความสว่างของพระคริสต์ในชิวิตต่างหากทำให้เรารู้ว่าความดีเป็นยังไง

  • ความสว่างคือดวงตา
  • ความสว่างคือการเฝ้าระวัง
  • ความสว่างคือความเจริญรุ่งเรือง
  • ความสว่างคือการชื่นบานและยินดี
  • ความสว่างคือความโปรดปรานของพระเจ้า

และความสว่างคือชิวิต

พระเยซูคริสต์เจ้ามายังโลกนี้เพื่อจะเป็นความสว่าง พระเยซูทรงเป็นพระวาทะนิรันด์ ผู้ตรัสว่าจงเกิดความสว่าง ทรงเป็นแสงสว่างแห่งพระสิริของพระเจ้า ความสว่างแท้ที่ทำให้ทุกคนเห็นความจริงนั้นเข้ามาในโลก พระองค์เองเป็นความสว่าง พระองค์เป็นผู้ที่คำพยากรณ์พูดถึง โดยอิสยาได้พูดประโยคนี้ว่า จะมีความสว่างมา ถึงแก่บรรดาประชาชาติ และพระเยซูมาบังเกิด

ลูกา 2:32 เป็นความสว่างส่องแสงแก่คนต่างชาติและเป็นสง่าราศีของพวกอิสราเอล ชนชาติของพระองค์”

พระเยซูตรัสว่าเราเป็นความสว่างของโลก เราเข้ามาในโลกเป็นความสว่างเพื่อทุกคนที่วางใจในเราจะไม่อยู่ในความมึด เมื่อท่านได้วางใจในพระเยซูท่านไม่ได้อยู่ในความมึดแล้วและสิ่งใดๆก็ตามที่ยังเกาะกินท่านให้ท่านบอกไปว่าฉันไม่อยู่ในความมึดแล้วเพราะฉันวางใจในพระเยซู

คุณลักษณะสามประการของพระสิริที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ คือ พระเยซูคริสต์เป็นความรักเป็นชีวิตและความสว่างคริสตจักรของท่านมีทั้งสามอย่าง ให้ความสว่างของท่าน ฉายส่องออกไปให้คนในอำเภอ ฝั่งนี้ของกรุงเทพและขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด ให้ท่านตั้งเป้าหมายในการประกาศ และจะพูดเรื่องพระเยซูเพื่อให้ผู้คนได้รู้จักผู้ที่ดีที่สุดทั้งแผ่นดินโลก และแผ่นดินสวรรค์