ข้อพระคัมภีร์หลัก : ยอห์น 4:27-38
ใครคือคนงานที่เกี่ยวข้าว พวกเราทุกๆคนที่เชื่อในพระเยซูเป็นคนงานของพระเจ้าที่จะนำข่าวประเสริฐออกไปและนำคนมาถึงความรอด พระเจ้าต้องการใช้คน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและรวดเร็วจนทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวจะห่างเหินกันไปบ้างแต่พระองค์ต้องการใช้พวกเรา เทคโนโลยีเป็นแค่ตัวช่วย
ตัวอย่างคนงานของพระเจ้าในพระคัมภีร์
ยอห์น 3:34-36 พระเยซูเป็นมิสชั่นนารีผู้แรกที่ทำการเก็บเกี่ยว พระเจ้าทรงเรียกโลกนี้ว่าทุ่งนาที่ถึงเวลาเกี่ยวแล้ว
ยอห์น 4:28-30 หญิงนั้นจึงทิ้งหม้อน้ำไว้และเข้าไปในเมืองบอกคนทั้งปวงว่า “มาเถิด มาดูท่านผู้หนึ่งที่เล่าถึงสิ่งสารพัดซึ่งฉันได้กระทำ ท่านผู้นี้จะเป็นพระคริสต์ได้ไหม” คนทั้งหลายจึงพากันออกจากเมืองไปหาพระองค์ หญิงคนนี้ได้พบกับพระเยซูอย่างแท้จริงเธอจึงอดไม่ได้ที่จะไปประกาศ
มัทธิว 9:29-30 แล้วพระองค์ทรงถูกต้องนัยน์ตาเขา ตรัสว่า “ให้เป็นไปตามความเชื่อของเจ้าเถิด” แล้วนัยน์ตาของเขาก็กลับเห็นดี พระเยซูได้ทรงกำชับเขาแข็งแรงว่า “จงระวังอย่าบอกผู้ใดให้รู้เลย” ชายคนนี้เมื่อพระเยซูได้รักษาเขาพระเยซูก็ได้ห้ามไม่ให้บอกว่าใครรักษาแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะไปบอกเล่าความอัศจรรย์นี้
คนงานของพระเจ้าต้องมีลักษณะดังนี้คือ
- มะระโก 5:18-20 แล้วบอกเขาถึงเรื่องเหตุการณ์ใหญ่ ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำแก่เจ้า และได้ทรงพระเมตตาแก่เจ้าแล้ว” ทุกคนที่ได้รับแล้วต้องประกาศและประกาศเรื่อยไป นี่คือคนงานของพระเจ้า ใครพบพระเยซูจะพบการอัศจรรย์ทุกวัน (มัทธิว 6:7)
มัทธิว.28:19-20 เป็นคำสั่งของพระเยซูสำหรับพวกเราโดยไม่เว้นใคร ไม่ใช่เลือกว่าเราชอบหรือไม่ชอบ เราทุกๆคนต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกับในพระธรรมเอเฟซัสเปรียบให้เห็นภาพเราที่ต้องใส่รองเท้าออกจากบ้านฉันใดต้องประกาศทุกครั้งที่ออกจากบ้านแม้แต่อยู่ที่บ้านก็ต้องมีชีวิตที่ประกาศพระเกียรติของพระเจ้าฉันนั้น - ยอห์น.4:31-34 คนงานของพระเจ้าจะไม่เป็นคนเห็นแก่อาหารฝ่ายกายมากกว่าฝ่ายวิญญาณคือ พระเจ้ารู้ว่าอาหารทำให้มีปัญหาอะไรมากมายตามมา อ.เปาโลจึงเขียนในพระธรรมฟป.ว่าคนจะเอากระเพาะของตัวเองเป็นพระเจ้า แต่คนงานของพระเจ้าจะต้องเห็นงานของพระเจ้าและเรื่องฝ่ายวิญญาณสำคัญกว่า เรื่องกิน วิธีที่จะพิสูจน์ว่าเราเป็นอย่างไรก็ตอนฟังเทศน์เลยเวลาเที่ยงท่าทีเราเป็นอย่างไร กุญแจหลักของเรื่องนี้คือ มัทธิว6:33 เราต้องเห็นแก่ฝ่ายวิญญาณมากกว่าฝ่ายร่างกายโดยเฉพาะ
- เรื่องเงินๆเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคน เราจะดูได้จากการเรียงลำดับรายการบัญชี ว่าเราให้อะไรมาก่อน แบบเดิม
- ให้พ่อแม่
- ค่าใช้จ่ายประจำ
- ใช้หนี้
- ให้รางวัลกับตัวเอง
- เก็บสะสม
- สิบลด
แต่ถ้าให้แผ่นดินของพระเจ้ามาก่อน เราจะจัดลำดับแบบนี้
- สิบลด
- ให้พ่อแม่
- ใช้หนี้
- ค่าใช้จ่ายประจำ
- สะสม
และถ้าเป็นได้ก็ไม่ควรเป็นหนี้ใครแต่ถ้าเป็นเราต้องประเมินรายรับและสามารถจ่ายได้ และการถวายก็ถวายอย่างเต็มขนาดเราก็จะได้อย่างเต็มพระสัญญา
- เวลา คนที่ให้ความสำคัญกับพระเจ้า( ลก.7:23บุคคลผู้ใดไม่เห็นว่าเราเป็นอุปสรรคผู้นั้นเป็นสุข) ต้องไม่เห็นว่างานของพระเจ้าเป็นอุปสรรค ระหว่างที่ต้องเลือกว่าต้องตัดอะไรออกไปก่อนคนที่เห็นว่าแผ่นดินของพระเจ้ามาก่อนเขาจะต้องเอาเรื่องพระเจ้ามาก่อน เช่นในวันอาทิตย์จะ นั่งดื่มกาแฟ ทานข้าวเสร็จก่อน คุยกันก่อน แล้วขึ้นนมัสการหรือเปล่า อย่าหลอกตัวเอง ให้เรียงความสำคัญอย่างถูกต้อง อย่าคิดว่าพระเจ้าเป็นอุปสรรค พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อต่อพระสัญญา พระเยซูจึงได้ตรัสว่าอาหารของเราคือทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า
สิ่งที่พวกเราต้องตระหนักคือ เห็นความสำคัญฝ่ายวิญญาณมากกว่าฝ่ายกาย เช็คจากตัวเราเมื่อเรามีปัญหาเราจะทำตามวิถีของเราเองหรือตามวิถีของพระเจ้า นี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราให้แผ่นดินของพระเจ้ามาก่อนหรือไม่ งานของพระเจ้านำความอิ่มเอมใจโดยเฉพาะเมื่อเราได้ประกาศกับใครสักคน
- ข้อ 34 ทำตามพระบิดา และทำงานของพระองค์ให้สำเร็จ มัทธิว.24:45-51 ทาสที่สัตย์ซื่อคือ ผู้ที่ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ถึงแม้นายยังไม่กลับมา เช่นเดียวกับเมื่อพระเยซูได้มอบหมายให้เราทำอะไรเราจะทำอย่างจริงจัง และถ้าไม่แล้วพระเยซูจะลงโทษอย่างสาหัส ให้เราเป็นเกลือและแสงสว่าง สัตย์ซื่อ เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาเห็นเรายังคงทำงานของพระองค์อยู่ไม่เพิกเฉยกับคนที่ยังไม่รอด ให้เปิดปากเป็นพยานทำอย่างสัตย์ซื่อ เห็นความสำคัญกับงานของพระเจ้าไม่ใช่เป็นสิ่งที่อยากเลือกหรือไม่แต่ต้องให้เวลากับงานของพระเจ้าเสมอ………………….ขอพระเจ้าอวยพร