(ฟิลิปปี 4:8-13)

อาจารย์เปาโลได้บอกไว้ว่าเราควรมีลักษณะอย่างหนึ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไปก็คือความชื่นชมยินดี จงมีความชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา  เพราะความชื่นชมยินดีของเราจะไม่มีวันเหือดแห้ง ความชื่นชนยินดีของเราจะไม่กลับกลายมาเป็นความโศกเศร้า คร่ำครวญ   แต่หากเราชื่นชมยินดีกับสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์  วิธีการ บัญชีในธนาคาร  ธุรกิจ ความสำเร็จ  เมื่อวันหนึ่งมันเปลี่ยนแปลงไป ความชื่นชมยินดีของเราก็จะหายไป เพราะฉะนั้นเคล็ดลับของเราคือเราต้องชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยทำให้เราผิดหวัง และความชื่นชมยินดีเป็นผล แห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์  โดยเกิดขึ้นจากฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ นั้นหมายถึงความชื่นชมยินดีเป็นเครื่องหมายหนึ่งของการเป็นบุตรของพระเจ้า

JOY :  สันติสุข  เราจะมีสันติสุขได้เมื่อเราเรียงลำดับความสำคัญได้ถูกต้อง

J : Jesus  = พระเยซูคริสต์  เป็นผู้บุกเบิกความชื่นชมยินดี เราต้องนึกถึงองค์พระคริสต์เป็นลำดับแรก

O : Others = คนอื่น  เราต้องคำนึงถึงคนอื่นเป็นลำดับ 2

Y : Yourself =  ตัวเราเอง  เราต้องนึกถึงตัวเราเองเป็นลำดับสุดท้าย

หากเราสลับกันโดยให้ตัวเองมาก่อน หรือคนอื่นมาก่อน แล้วพระเยซูมาเป็นลำดับสุดท้าย  ความชื่นชมยินดีก็จะหายไป   เพื่อรักษาความชื่นชนยินดีให้คงอยู่ต่อไปได้  ฟิลิปปี 4:8-13 ได้ให้หลักปฏิบัติแก่เราไว้ 3 ประการ คือ

  1. ให้คิดในแง่บวกเสมอ (ฟป 4:8) เราจะต้องคิดบวกเสมอ เพื่อจะรักษาความชื่นชมยินดีให้อยู่ในชีวิตของเราได้  เราจะคิดบวกเสมอได้อย่างไร

1.1 คิดใคร่ครวญ (ภาวนา/รำพึง)

ฟป 4:8  “..จงใคร่ครวญถึง… จงใคร่ครวญดู…”  คิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ดี  ภาวนา รำพึงรำพันถึงพระคุณของพระเจ้า พระคุณของพระเจ้าก็จะเต็มในหัวใจของเราพระเจ้าจะสามารถเคลื่อนไหวในชีวิตของเราได้มากขึ้น  แช่อิ่มในพระคุณของพระเจ้า ให้เรามีใจในด้านบวก ขอบพระคุณพระเจ้าในทุกเวลาสำหรับชีวิตของเรา  จะมีสิ่งดีเกิดขึ้นกับเรา

1.2  เชื่อฟัง (ปฎิบัติตาม)

ฟป 4:8 “..จงใคร่ครวญถึง… จงใคร่ครวญดู…”

คำว่าจงคือคำสั่งเราจะต้องทำตามเพราะเป็นคำสั่งจากพระเจ้า และเราสามารถทำได้ เพราะอะไรที่ทำไม่ได้พระเจ้าจะไม่สั่งให้เราทำ  คนที่มีความคิดบวก เขาจะต้องมีลักษณะบางอย่างแสดงออกมา สามารถดูได้จากคำพูด วิธีการพูด และถ้อยคำของเขาที่ออกมาจากปาก เราจะรู้ว่าเขาคิดบวกไหม  หากคุณเป็นคนคิดบวก

คุณจะต้องมีวลี 10 คำนี้ในชีวิตของคุณ  (ริช เดอโวส)

1.ฉันผิดเอง /I am wrong
2. ฉันขอโทษ /I am sorry
3. คุณทำได้ /You can do it
4.ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ/I believe in you
5. ฉันภูมิใจในตัวคุณ /I am proud of you
6.  ขอบคุณ /Thank you

7. ฉันต้องการคุณ /I need you
8. ฉันวางใจในตัวคุณ /I trust you
9.ฉันเคารพคุณ /I respect you
10. ฉันรักคุณ /I love You

  1. เรียนรู้จากคนอื่น ฟป 4:9

2.1 สังเกตและเลียนแบบจากผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ เพื่อจะให้ความชื่นชมยินดีคงอยู่ในชีวิตของเรา  เราจะต้องเรียนรู้จากคนอื่น  โดยเฉพาะผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ  จะเป็นผู้ถ่ายทอดความชื่นชมยินดีใน ความทุกข์ยากแก่เรา และไม่มีใครสมบูรณ์แบบทุกประการ

  1. ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง/พึงพอใจ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง และ พึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่  สิ่งที่พระเจ้าให้ พระคัมภีร์บอกเรามีอยู่ 2 ลักษณะ

3.1 เลิกบ่น  (ฟป 4:11-12คนนั้นจะเป็นคนที่เลิกบ่น  ไม่ขี้บ่นอีกต่อไป เรียนรู้ที่จะพอใจอยู่ อย่างนั้น  เรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่  ทั้งหมดที่ท่านเป็นได้ มีอยู่ได้ เป็นเพราะพระคุณพระเจ้า

3.2 เริ่มเชื่อมต่อกับพระเยซูมากขึ้น  (ฟป 4:13 / สุภาษิต 17:22 /เนหะมีห์ 8:10)  ชื่อของพระเจ้า คือ เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น “I am who I am”  มีเราเพียงองค์เดียว  ที่เป็นผู้เสริมกำลังแก่เจ้าในทุกอย่างที่  เจ้าต้องการ พระเจ้าเป็นทุกอย่างที่เราต้องการ และเพียงพอต่อเรา

Keep your thoughts positive because your thoughts become your words.
จงรักษาความคิดบวกเพราะความคิดของท่านจะกลายเป็นคำพูด

Keep your words positive because your words become your behavior.
จงรักษาคำพูดบวก เพราะคำพูดของท่านจะกลายเป็นการกระทำ

Keep your behavior positive because your behavior becomes your habits.
จงรักษาการกระทำบวก เพราะการกระทำของท่านจะกลายเป็นนิสัย

Keep your habits positive because your habits become Keep your values positive because your values become your destiny.
จงรักษาบุคลิกบวก เพราะบุคลิกของท่านจะกลายเป็นลิขิตชีวิต