ฮีบรู 11:1-6

คือความเชื่อในถ้อยคำของพระเจ้า ถึงแม้ในขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้นจริงมิใช่เชื่อในสิ่งที่โลกกำลังพูดถึง ตัวอย่างของถ้อยคำที่เกิดขึ้นจริงแล้วก็คือประเทศอิสราเอลที่มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็น  บุคคลในพระคัมภีร์ที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือ

  1. ในฮบ.11:4 เพราะอาแบลมีความเชื่อ จึงได้นำเครื่องบูชาอันประเสริฐกว่าของคาอินมาถวายแด่พระเจ้า   ซึ่งทำให้ท่านได้รับการรับรองว่าเป็นคนชอบธรรม   พระเจ้าก็ได้ทรงยืนยันโดยการทรงรับของถวายของท่าน   แม้ว่าอาแบลตายไปแล้วก็จริง   แต่เพราะท่านมีความเชื่อ   ท่านจึงยังคงพูดอยู่(ปฐก.4:1-15)  พระเจ้าทรงพอพระทัยเครื่องถวายของอาเบลแต่มิได้พูดว่าทำไมถึงไม่พอพระทัยของคาอินแต่กำลังเตือนคาอินว่าบาปได้หมอบอยู่ที่ประตู สิ่งที่อาเบลทำมิได้วัดกันที่ปริมาณแต่วัดกันที่การเชื่อฟัง

    ฮบ.10:38 แต่คนชอบธรรมของเรานั้นจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ  และถ้าความเชื่อของเขาเสื่อมถอย เราจะไม่มีความพอใจในคนนั้นเลย  

    อาเบลได้นำสิ่งที่ดีที่สุดมาถวาย สิ่งที่ดีที่สุดของแต่ละคนต่างกันแต่(เช่นเดียวกับเหรียญของหญิงม่าย) ขึ้นกับหัวใจที่เชื่อฟัง  ฮบก.2:4ดูเถิด  ผู้ที่จิตใจไม่ชอบธรรมก็จะล้ม แต่ว่าคนชอบธรรมจะดำรงชีวิตอยู่ ด้วยความซื่อสัตย์ คต.อยู่ด้วยความเชื่อ อย่างมั่นคง และในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการเงิน เพื่อน ฯลฯ  เมื่ออาเบลนำสิ่งที่ดีมาถวายแล้วยังถูกฆ่าแม้ตายอาเบลก็ยังพูดอยู่ ในปัจจุบันพระเจ้ายังยกมาตรฐานคต.และเรายังต้องเช็คตัวเองว่าอะไรขับเคลื่อนในชีวิต เราเป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแม้ต้องอยู่ในความทุกข์ยากยังคงรักษาความเชื่ออยู่  บาปที่คอยตะคลุบอยู่เกิดขึ้นในปฐก.มาแล้วและยังคงเกิดในปัจจุบัน ถ้าเรายังคงทำตามใจตัวเองบาปยังวนเวียนอยู่รอบๆโดยคต.ต้องเข้าใจเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นก็คงเหมือนคาอิน และต้องวางใจพระเจ้าทุกเรื่อง  มิใช่ทุกคนมาเชื่อพระเจ้าแล้วเปลี่ยน สภษ.29พูดถึงคนที่ชอบโมโหโกรธ คาอินก็เป็นเช่นนั้น พระวจนะจึงพูดไว้ในฟป.4 ให้เราชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา  และบั้นปลายของคาอินเป็นอย่างไรเป็นตัวอย่างที่คต.ต้องรู้เพราะปัจจุบันคนจะโมโหง่ายโกรธง่ายและทำบาปง่ายนิสัยของคาอินชอบโทษคนอื่นและสิ่งรอบๆ พระวิญญาณกำลังขับเคลื่อนหรือบาปให้รู้ทันว่าอะไรกำลังขับเคลื่อน อย่าให้เราอยู่ภายใต้อารมณ์แบบคาอิน เมื่อเรามาเชื่อ พระพระวจนะเท่านั้นที่เปลี่ยนเราได้อย่าให้บาปที่คอยตะคลุบเรา

    ในสภษ.15:8เครื่องสักการบูชาของคนชั่วร้ายเป็นที่น่า เกลียดน่าชังแก่พระเจ้า แต่คำอธิษฐานของคนเที่ยงธรรมเป็นที่ปีติยินดีแก่พระองค์

    สภษ.21:7ความทารุณของคนชั่วร้ายจะกวาดเขาไป เพราะเขาปฏิเสธไม่ยอมทำสิ่งที่ยุติธรรม

    ติตัส1:16เขาแสดงตัวว่ารู้จักพระเจ้า   แต่ว่าในการกระทำของเขา   เขาก็ปฏิเสธพระองค์   เขาเป็นคนน่าชัง   ไม่เชื่อฟังใคร   และไม่เหมาะที่จะกระทำกรรมดีใดๆเลย การรู้จักพระเจ้านั้นทั้งคำพูดและการกระทำต้องสอดคล้องกัน ยูดาข้อ 4 เพราะว่ามีบางคนได้แอบแฝงเข้ามา   ซึ่งพระคัมภีร์ได้บ่งไว้นานแล้วว่า   เขาจะถูกพิพากษาลงโทษอย่างนี้   เขาเหล่านั้นเป็นคนอธรรม   ที่ถือเอาพระคุณของพระเจ้าของเราเป็นเหตุให้กระทำความชั่วช้าลามกและเขาปฏิเสธพระเยซูคริสต์   ผู้ทรงเป็นเจ้านายและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแต่องค์เดียว นี่คือบั้นปลายของเขาที่พระวจนะกล่าวไว้

  1. เอโนค เป็นผู้ที่เดินกับพระเจ้า ในสภานการณ์ตอนนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างสบายดี (ยูดา14-16) ซึ่งเอโนคได้พยารณ์ว้าแล้ว พระเจ้าเกลียดเสียงบ่นเสียงติที่สุด พระเจ้าก็ได้ลงโทษ

ข้อควรระวัง  คนจะทำบาปด้านคำพูดมากที่สุด เอโนคพูดถึงการที่ไม่ดำเนินกับพระเจ้า  ในปฐก.6:1-8 ยุคสุดท้ายนี้ผู้ที่ดำเนินกับพระเจ้าเท่านั้น ที่พระเจ้าจะรับไปเอโนคเป็นตัวอย่างของผู้ที่ดำเนินกับพระเจ้าถูกรับไปโยไม่ต้องผ่านความตาย

ยน.8:51เราบอกความจริงแก่ท่านว่า   ถ้าผู้ใดประพฤติตามคำของเรา   ผู้นั้นจะไม่ประสบความตายเลย

ยน.11:26 และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย   เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม”

1ยน.3:22และเราขอสิ่งใดๆ   เราก็ได้สิ่งนั้นๆจากพระองค์   เพราะเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์   และปฏิบัติตามชอบพระทัยพระองค์

ขอพระวิญญาณฯช่วยและให้เรานำสิ่งที่ดีที่สุดมาถวายแด่พระเจ้า………………ขอพระเจ้าอวยพร