ฟิลิปปี 3:13-14
“13ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า 14ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ”
จากข้อ1-11 จะพบว่า อ.เปาโลได้พูดไว้ว่า “ท่านได้พระคริสต์ พบพระคริสต์ มีประสบการณ์ร่วมกับพระคริสต์ แต่ท่านก็ยังบอกว่า ท่านยังอยากได้พระเยซูคริสต์ในชีวิตของท่านอีก ที่มีแล้วนั้นยังไม่เพียงพอ และจากประสบการณ์ของท่านซึ่งเป็นประสบการณ์เดียวกับพระเยซูคริสต์ สรุปว่า ถ้าทุกคนทำ 4 ข้อนี้ได้ ก็จะได้พระคริสต์ และเป็นเหมือนพระคริสต์ คือ 1.สละ (การสละออก สละทุกสิ่ง สละสิ่งสารพัด) 2.ทนทุกข์ 3.ตาย 4.ฟื้น (ซึ่งอ.เปาโล กำลังรอที่จะฟื้นจากความตายร่วมกับพระองค์)
ในข้อ 13 “….คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย” คำว่า “ลืม” ไม่ได้แปลว่าสิ่งที่ไม่มีข้อมูล แต่ไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีหรือครอบครองอยู่ เพราะท่านตั้งใจและอยากได้ ศักดิ์ศรีที่เส้นชัย นั่นคือการได้พระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต เป็นศักดิ์ศรีที่พระเจ้าได้ทรงเตรียมไว้เพื่อเรา ดำรงค์อยู่นิจนิรันดร์ แต่กว่าจะได้มานั้น ต้องสละ และทนทุกข์เหมือนพระคริสต์ ตายต่ออารมณ์อยาก อ.เปาโลได้บอกว่ามันคือหยากเยื่อ ไม่ว่าเงินทอง ทรัพย์สิน เกียรติยศ แม้แต่งานรับใช้ เพราะถ้าท่านไม่มีสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าเป็นสิ่งแรกในชีวิตก่อน สิ่งที่ท่านทำหรือสละ ทนทุกข์นั้น ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น อาจจะสำเร็จแต่ อยู่เพียงชั่วคราวเมื่อถึงเวลาก็ดับสูญไป
ปกติแล้วมักจะมีการตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปีใหม่นี้จะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เช่น มีทรัพย์สินมากว่าปีที่แล้ว ตำแหน่งต้องก้าวหน้าสูงกว่า บ้านต้องใหญ่กว่า เกรดต้องดีกว่า ….ปีที่แล้ว เป็นเส้นชัยที่ทุกคนตั้งเป้าหมายเอาไว้ เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องยอมสละ ทนทุกข์ ตั้งอารมณ์ตายต่อชีวิตของตัวเอง ไม่ดูแลร่างกาย แต่ทุ่มเทกำลังกายและใจให้เข้าสู่เส้นชัยนี้ เพื่อให้ได้ความสำเร็จนั้นมาครอบครอง แต่มันอยู่เพียงชั่วคราว ตำแหน่งที่สูงขึ้นมา หรือเงินเดือนที่เพิ่มขี้น เกรดที่ดีกว่า มันก็เพิ่มขึ้นมาตามลำดับแต่มีจำกัดขอบเขตของมัน ยั่งยืนอย่างมากสุดไม่เกิน 120 ปี
แต่สำหรับคต. ควรตั้งเป้าหมายและควรทำให้สำเร็จที่จะอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ ตั้งใจเรียนพระวจนะ จะเชื่อฟังและปฎิบัติตามพระวจนะให้มากขึ้น (มธ.5) ทำอะไรก็ตามเพื่อพระคริสต์ให้ดีและมากขึ้นกว่าเดิมกว่าปีที่แล้วที่เคยทำ โดยต้องยอมสละ ทนทุกข์ ตาย เพื่อให้ได้มาซึ่งศักดิ์ศรีแห่งชัยชนะนี้
จิตวิญญาณของมนุษย์นั้นอยู่นิรันดร์ไม่มีวันดับสูญ แต่หนทางที่จะเลือกอยู่แบบถาวรนั้นมีแค่ 2 ทางเท่านั้นคือ บนแผ่นดินสวรรค์กับพระเยซูคริสต์ หรือบึงไฟนรกกับซาตาน เพราะฉะนั้นการงานที่มนุษย์เลือกทำบนโลกใบนี้จะส่งผลต่อการพิพากษาวิญญาณของเขาในอนาคตซึ่งนิรันดร์เช่นกัน
วว.20:4 “4… และข้าพเจ้ายังได้เห็นดวงวิญญาณของคนทั้งปวงที่ถูกตัดศีรษะ เพราะเป็นพยานของพระเยซูและเพราะพระวจนะของพระเจ้า และผู้ที่ไม่ได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นหรือรูปของมัน … คนเหล่านั้นกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี”
นี่คือศักดิ์ศรีแห่งชัยชนะในพระคริสต์ที่คต.ควรเลือกที่จะรับ เพราะผลของมันคือการครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี เป็นศักดิ์ศรีที่ไม่ร่วงโรย แต่กว่าจะได้มานั้น ต้องยอมสละ ทนทุกข์ ตาย และรอการฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เหมือนพระคริสต์ หรืออ.เปาโลและสาวกที่ได้เคยประสบมา และเป็นสิ่งที่โลกบอกว่าเป็นเรื่องโง่เขลา
สุดท้ายนี้ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยเปิดตาเปิดใจเราให้เห็นศักดิ์ศรีแห่งชัยชนะ และไม่มีวันร่วงโรย ในชีวิตของเราเพื่อให้มีความเชื่อและความรักปรารถนาที่จะได้มาซึ่งพระเยซูคริสต์ให้บริบูรณ์ในชีวิตของเราทุกคน เพื่อมีกำลังที่จะสามารถสละทุกสิ่ง ทนทุกข์ต่อทุกสิ่ง และยอมตายต่อตัวเอง เพื่อรอการฟื้นขึ้นใหม่ กับพระคริสต์อีกครั้งแบบถาวรนิรันดร์ อาเมน