(1 โครินทร์ 13:4-8)
พระเจ้าทรงเป็นความรัก และทรงรักเราทุกคน หัวใจของพระวจนะของพระเจ้าคือ
ยน.3:16 “16เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
อ.เปาโลได้บันทึกใน1คร.12 ไว้ถึงของประทานต่างๆ มากมาย ทุกคนมีของประทานแตกต่างกัน เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้เจริญเติบโต สมบูรณ์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าการทำอิทธิฤทธิ์ การรักษาโรค การอัศจรรย์ การพูดและแปล ภาษาแปลก ๆ แต่ตอนท้ายของบทที่ 12 นี้ อ.เปาโลยังได้กล่าวสรุปว่า ยังมีของประทานที่สำคัญที่สุดที่ทุกคนควรแสวงหาและสามารถมีได้ทุกคน เป็นของประทานที่ยิ่งใหญ่กว่า คือ ความรัก เพราะแม้ทำการอัศจรรย์มากมาย ทำการดีต่าง ๆ บริจาค ช่วยเหลือคนมากมาย หรือแม้แต่เคลื่อนภูเขาออกไปลงทะเลได้ แต่ทุก ๆ อย่างที่ทำปราศจากความรัก สิ่งเหล่านั้นก็ไร้ความหมาย เหมือนเสียงฉิ่ง เสียงฉาบที่ดังออกไปเท่านั้น คนจะไม่สามารถสัมผัสความรักได้ สิ่งเหล่านั้นที่ทำได้ก็คือศูนย์สำหรับสายตาของพระเจ้า
ดังนั้นเราจะมาเรียนรู้ถึงของประทานที่สำคัญที่สุดที่ทุก ๆ คนสามารถมีได้และใช้ออกไปได้เต็มที่ และเป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระเจ้าด้วย นิยามของความรักมีดังนี้
- ความรักนั้น อดทน อดกลั้น ความอดทนนั้นมีดีกรี ตอนเกิดเป็นทารก ก็จะไม่มีความอดทนร้องขอได้ทุกสถานการณ์ แต่เมื่อเราเรียนรู้ ผ่านร้อนผ่านหนาว เราก็จะพัฒนาความอดทนอดกลั้นมากขึ้น เราก็จะเป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูง เป็นผู้ใหญ่ หรือเป็นคนที่อดทนจนถึงที่สุดได้ ซึ่งคำว่า อดทน แปลว่า “ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเลย แต่ก็ทำ” อดกลั้น แปลว่า “ฉันจะไม่ทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ” ชีวิตของเรานั้นต้องมีทั้งอดทนอดกลั้น เป็นความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของเราทุก ๆ วัน กับคนรอบข้างและสังคมที่เราอยู่ ถ้ามีความอดทนอดกลั้น ก็จะสามารถอยู่ได้อย่างประสพความสำเร็จ และราบรื่นได้ และเป็นการสำแดงความรักเหมือนพระลักษณะของพระคริสต์ซึ่งความรักของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด ทรงอดทนอดกลั้น ทรงกริ้วช้า และมีความรักมั่นคงนิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล
- ความรักนั้น กระทำคุณและชื่นชมยินดี “ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้” เป็นรูปของการกระทำ อย่าพูดแต่ปากว่ารักพี่น้อง หรือแค่อธิษฐานเท่านั้น แต่ให้ยื่นมือออกไปด้วยการกระทำ ช่วยเหลือ สำแดงออกมาให้ได้ สามารถมองเห็นจับต้องได้ถึงการกระทำนั้นที่เป็นความรักอย่างแท้จริง จงแสวงหาโอกาสกระทำการดีเสมอๆ “อะไรที่รู้ว่าดีนั้น แต่ไม่ทำนั้นคือบาป” ความรักนั้น ต้องมีสติปัญญาจากพระเจ้า ที่จะช่วยเขาได้จริง ๆ ไม่ใช่ให้แบบโง่เขลา ต้องเป็นความรักที่ให้เขาและมั่นคงยั่งยืน ตย.การให้แก่ใครสักคนหนึ่ง ถ้าเป็นปลา เราจะให้แค่ปลาหรือเบ็ดตบปลา ถ้าให้แค่ปลา เขาก็จะอดอยากในอนาคต แต่ถ้าเบ็ดตบปลา เราก็จะสอนให้เขาสามารถตบปลาเลี้ยงชีพได้ เราอย่ามัวแต่ห้ามเด็กว่าอย่าทำนั่นทำนี่ แต่ต้องสอนและบอกถึงสิ่งดีและไม่ดีให้เขาเรียนรู้ถึงความจริง และให้เขาระมัดระวังในการดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัย
- ความรักนั้น ไม่อิจฉา ความอิจฉานั้นเกิดจาก การที่เอาตัวเราเปรียบเทียบกับคนอื่น และรู้สึกด้อยกว่าคนอื่น จึงเกิดความอิจฉา การไม่รู้จักเพียงพอ ความอยากมีอยากได้ที่ไม่สิ้นสุด พระเจ้าทรงสร้างเราเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวของเราเองเป็นคนมีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า รักเราในสิ่งที่เรามีและเราเป็น จึงไม่ควรไปเปรียบเทียบตัวเองกับใครเลย ความอิจฉานั้นจะเป็นรากขมขื่น ถ้าจะเปรียบเทียบก็ให้เปรียบเทียบกับตัวเองว่าวันนี้เราทำได้ดีกว่าเมื่อวานหรือเปล่าถ้าไม่ดีก็เปลี่ยนแปลงพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
- ความรักนั้น ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ความหยิ่งผยองนั้นคือการที่เราเอาตัวเราเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วรู้สึกว่าเราดีกว่า เก่งกว่า เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง เกิดความหยิ่งและทำให้หยาบคายฉุนเฉียวต่อคนที่ด้อยกว่า ใช้คำพูดที่กระทบคนอื่นให้เจ็บ จงประพฤติตัวให้เหมือนพระเยซูคริสต์ ทรงถ่อมพระทัยเสมอ
- ความรักนั้น ให้อภัยเสมอ พระเยซูคริสต์ตรัสว่า การให้อภัยควรมี 7คูณ70 นั่นคือให้อภัยเสมอ เป็นการให้อภัยที่ไม่รู้จบ และเราจะมีความรักที่ให้อภัยได้นั้น เราต้องได้รับจากพระเจ้าถึงจะทำได้ ซึ่งพระคัมภีร์ได้สอนว่า “ไม่ช่างจดจำความผิด ความรักทนได้ทุกอย่าง แม้ความผิดของคนอื่น”และนี่ก็เป็นความรักที่พระเจ้าทรงกระทำต่อเราและพระองค์ก็ทรงหวังให้เราทำเหมือนพระองค์ด้วย ถ้าเราให้อภัยให้คนอื่น พระองค์ก็ทรงให้อภัยกับเราด้วย
- ความรักนั้น เชื่อในส่วนดีและมีความหวัง เราต้องมีมุมมองในแง่บวกต่อคนอื่น ในความเชื่อนั้นต้องมีความหวังในคนๆ นั้นว่าเขาสามารถทำได้ (ฮบ.11:1) อย่ามองคนที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ให้มองแบบพระเจ้ามองว่าเขาสามารถ เหมือนดาวิด เป็นเด็กเลี้ยงแกะ เป็นลูกคนเล็ก ไม่เคยออกรบ แต่พระเจ้าทรงเลือกใช้ให้เป็นกษัตริย์
- ความรักนั้น ไม่มีวันสูญสิ้น ความรักของพระองค์ไม่เคยลดน้อยลงเลย ไม่เคยสูญสิ้น และไม่มีอะไรสามารถพรากเราออกจากความรักของพระองค์ในชีวิตเราได้ ความรักของพระองค์มั่นคงดำรงเป็นนิจนิรันดร์ ไม่เหมือนความรักของมนุษย์ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ต่างๆ และเวลาที่ทำให้จืดจาง
สุดท้ายนี้ ขอให้เราตอบสนองต่อคำนิยามแห่งความรักของพระเจ้าที่กล่าวมานี้ ถ้าสิ่งไหนเราทำได้ก็ขอให้เราพัฒนาทำได้มากขึ้น แต่ส่วนไหนที่เรายังทำไม่ได้ ก็อธิษฐานและขอกำลัง และเริ่มกระทำให้ได้ตามพระประสงค์ของพระองค์ เพื่อสิ่งที่ออกมาจากชีวิตของเรานั้น จะสำแดงออกมาจากความรักที่ไม่สูญสิ้นของพระเจ้าได้ เพื่อเป็นที่พอพระทัย อาเมน