(ฮีบรู 10:36-39)

จากข้อ 35  “เหตุ​ฉะนั้น​ขอ​อย่า​ได้​ละ​ทิ้ง​ความ​ไว้​วาง​ใจของ​ท่าน ซึ่ง​จะ​ได้​รับ​บำ‌เหน็จ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่”

กล่าวถึงความไว้วางใจในพระเจ้า  ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่มีความมั่นใจ และแน่ใจในพระเจ้า  แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เราไม่สามารถไว้วางใจได้เลย ซึ่งดูจากชีวิตของโยเซฟ เป็นตัวอย่าง

ข้อ 36 กล่าวถึงความอดทนเพื่อกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า    ซึ่งคำว่า “อดทน” ความหมายในพจนานุกรมแปลว่า “การเผชิญกับความยากลำบากได้นาน  อึด”  และนี่เป็นคุณสมบัติที่เมื่อเรามาเชื่อพระเจ้าแล้วเราต้องมีอย่างมั่นคง ยึดไว้ให้แน่น

 

  1. ความอดทน เมื่อเราเชื่อพระเจ้า และอยู่ในอาณาจักรของพระองค์ ซึ่งมีกฎหมาย กฎเกณฑ์ พระคำของพระเจ้าที่เราควรเชื่อฟังและปฏิบัติ และคุณสมบัติที่เราถูกเรียกร้องให้มีกันทุก ๆ คนคือ “ความอดทน”  ให้เรามาดูพระคำที่เกี่ยวกับความอดทน

    (ลก.8:15 “…ที่ตกในดินดี หมายถึงคนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะแล้วจดจำไว้ด้วยใจที่ซื่อสัตย์ดีงาม  จึงเกิดผลโดยความทรหดอดทน)

    (รม.5:3-4  “..เราชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้นทำให้เกิดความทรหดอดทน  และความทรหดอดทนทำให้เห็นว่า  เราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้)(รม.5:8..เราหวังอะไร..เรามีความอดทนรอคอยสิ่งนั้น)

    รม.15:4-5 ,คส.1:11, (ยก.1:4”…จงให้ความทรหดอดทนนั้นมีผลอย่างสมบูรณ์ เพื่อ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จะ​ได้​เป็น​คน​ที่​ดี​พร้อม มี​คุณ‍สม‌บัติ​ครบ​ถ้วน ไม่​มี​สิ่ง​ใด​บก‍พร่อง​เลย)

    ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จ  มักต้องมีความอดทน ตามตัวอย่างนี้

* โทมัส อัลวา เอดิสัน :  มีคนถามเขาว่า อัจฉริยะเกิดจากอะไร ? เขาตอบว่า “อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจเพียง 1% อีก 99% เกิดจากความอดทนพากเพียรที่ไม่หยุด”   *เซอร์ไอแซค นิวตัน  :  “กว่าจะพบแรงโน้มถ่วงของโลก  เขาต้องอดทนพากพียร  เขาไม่เคยนอนก่อนตี 2 เลย  เพื่อที่จะค้นพบกฎที่ยิ่งใหญ่เพื่อมอบให้แก่มนุษยชาติ”     ความอดทนพรากเพียร มักขื่นขม  แต่ผลของมันมักหวานชื่นเสมอ  คนที่มีความอดทนพากเพียรมักเป็นคนที่มีความขยันขันแข็ง  ไม่เกียจคร้าน  ตัวอย่างในชีวิตของโยบเรื่องความอดทน (ยก.5:7-11)  ทุกอย่างในชีวิตของเขารับเป็น 2 เท่า ทั้งครอบครัวและทรัพย์สิน

  1. มองที่พระสัญญาของพระเจ้า ในข้อ 37 พูดถึงพระสัญญาของพระคริสต์จะเสด็จกลับมา  ซึ่งเป็นความจริง

    (วว.22:20 … “เราจะมาในเร็ว ๆ นี้แน่นอน” อาเมน พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า เชิญเสด็จกลับมาเถิด”)

    พระสัญญาของการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ เป็นสิ่งที่ทำให้เราอดทนต่อทุกอย่างได้ เป็นอย่างดี ไม่ว่าความไม่ยุติธรรม ความลำบาก การที่เรารู้สึกถูกทอดทิ้ง ถูกเอาเปรียบ ไม่ถูกเห็นในคุณค่า ความลำเอียง หรือขาดสิ่งใด ๆ ในโลก ไม่สะดวกสบาย ในเรื่องต่าง ๆ ขาดโอกาส   ถ้าเรามีชีวิตที่รอคอยพระองค์อย่างแท้จริง  ซึ่งเมื่อเราตระหนักถึงการเสด็จกลับมาของพระคริสต์  พระองค์จะทำให้ทุกสิ่งที่เราไม่ได้รับนั้นจะถูกเติมเต็มอย่างครบถ้วน

 

  1. มีความเชื่อ ในข้อ38-39 “แต่​คน​ชอบ‍ธรรม​ของ​เรา​นั้น​จะ​ดำ‌รง​ชีวิต​อยู่​ด้วย​ความ​เชื่อ และ​ถ้า​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​เสื่อม​ถอย เรา​จะ​ไม่​มี​ความ​พอใจ​ใน​คน​นั้น​เลย แต่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ไม่​ใช่​คน​ที่​เสื่อม​ถอย และ​ถึง​ซึ่ง​ความ​พินาศ แต่​เป็น​คน​ที่​เชื่อ​มั่น จึง​ทำ​ให้​ชีวิต​ปลอด‍ภัย”

ความเชื่อ  เป็นสิ่งที่ผู้เดินกับพระเจ้านั้น ต้องมีและรักษาไว้ให้มั่น

(รม.1:17 “…คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ”) และถ้าความเชื่อเสื่อมถอย  พระเจ้าก็ไม่มีความพอใจคนนั้น   (2ปต.2:19-22)

มีคริสเตียนเป็นจำนวนมาก พ่ายแพ้ และเป็นทาสของการถูกยั่วยุของโลก  เกียรติ เพศ หรือเงิน  พระเจ้าตรัสว่า “พระองค์จะไม่พอใจในคนนั้น  แน่นอนเขาต้องหันกลับ และกลับใจใหม่  ก่อนจะรับพระคุณได้อีก  ในข้อ39 กล่าวถึง ให้เราไม่ใช่คนที่เสื่อมทรามเหมือนที่พระคัมภีร์กล่าวไว้

ใน 1 ซมอ.15:11 “เรา​เสีย​ใจ​แล้ว​ที่​เรา​ได้​ตั้ง​ซาอูล​เป็น​กษัตริย์ เพราะ​เขา​ได้​หัน​กลับ​เสีย​จาก​การ​ตาม​เรา และ​ไม่​ได้​กระ‌ทำ​ตาม​บัญ‌ญัติ​ของ​เรา”

พระเจ้าได้พูดกับซามูเอล ถึงกษัตริย์ซาอูลไม่ได้ติดตามพระเจ้าอย่างแท้จริง  ไม่เชื่อฟังถ้อยคำที่พระเจ้าสั่งเมื่อเขาไปรบชนะอามาเลข  ไว้ชีวิตกษัตริย์อามาเลข และเก็บสิ่งดีที่สุดของแผ่นดินนั้นไว้ ซึ่งพระเจ้าสั่งทำลายทุกอย่าง  ชีวิตของซาอูลนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของการไม่เชื่อฟัง  พระเจ้าต้องการ การเชื่อฟังแบบไม่มีเงื่อนไขจากคนของพระเจ้าเสมอ    ขอพระบิดาเจ้าทรงช่วยเหลือพวกเราทุก ๆ คนที่จะเป็นคนอดทนเชื่อฟังพระเจ้า ให้เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ตลอดกาล อาเมน…