(มัทธิว 7:15-20)
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในข่าว เป็นการเตือนเราให้ระวังและยืนหยัดในพระวจนะของพระเจ้า และจงมีความเชื่อให้มั่นคงในองค์พระเยซูคริสต์ ว่าทรงเป็นทางนั้น เป็นความจริง และทรงเป็นชีวิต นอกจากพระองค์แล้วไม่มีใครที่จะนำไปสู่พระบิดาได้ หรือให้ความรอดไถ่ถอนแก่เราได้อย่างแท้จริง ซึ่งเราต้องเรียนรู้และระวังให้มากเพราะพระเยซูคริสต์ หรืออ.เปาโลก็เตือนเราเกี่ยวกับการสอนเท็จอยู่บ่อยครั้ง เราจะมาดูกันว่าสาเหตุใดที่ทำให้เกิดผู้สอนเท็จ, ลัทธิเทียมเท็จ, ผู้สอนผิดขึ้นมามากมาย พวกเขามาจากไหน ?
ท่านยอห์นได้เตือนเรา
ใน1ยน.4:1-3 ว่า “จงพิสูจน์ว่าวิญญาณเหล่านั้นที่อยู่ในมนุษย์มาจากพระเจ้าจริงหรือไม่? เพราะว่าผู้อ้างพระวจนะ แต่อาจจะไม่ได้พูดด้วยวิญญาณของพระเจ้า แต่เป็นวิญญาณของเขาเอง”
เพราะลัทธิเทียมเท็จเหล่านี้ก็เริ่มจากการที่พวกเขาเป็นคริสเตียนประกาศพระวจนะ แต่พวกเขาไม่สามารถปฎิตามพระวจนะได้หมด ในความบาปที่เขายังรักที่จะทำอยู่ จึงบิดเบือนและเปลี่ยนแปลงพระวจนะของพระเจ้าเพื่อเข้าข้างตัวเอง เช่น ลัทธิชิลเดร้น ออฟ ก๊อด พวกเขามีปัญหาเรื่องเพศ เขาก็จะสอนเรื่องความรัก แบ่งปันความรัก แต่แฝงในเรื่องเพศทำให้คนหลงผิด ส่วนพยานพระยะโฮวาห์ เขาก็สอนถูก แต่เนื่องจากผู้นำถูกแม่ขู่เรื่องนรกตลอดในสมัยเด็ก เขาจึงกลัวนรก พวกเขาจึงออกไปตั้งคณะและสอนว่าไม่มีนรก เป็นต้น ซึ่งเราก็สามารถรู้ได้ว่าพวกเขาสอนผิด แต่เปาโลเตือนเราให้ระวังถึงผู้คนที่อยู่ท่ามกลางเราในคจ. เพราะถ้าเราไม่มีจุดยืนที่มั่นคงหรือเรียนรู้ในพระวจนะของพระเจ้าอย่างแท้จริงแล้ว เราอาจเชื่อแบบผิด ๆ ตามเขาเหล่านั้นที่กำลังสอนหรือชักจูงเราในทางที่ผิดได้ซึ่งอยู่ในคจ.ท่ามกลางเรา จงพิสูจน์ดู ซึ่งต้องใช้เวลา
ตามพระธรรมอิสยาห์ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้อยคำที่ออกจากปากของพระเจ้า คือฝนที่ตกลงไปในดิน แล้วทำให้เกิดเมล็ดพันธ์ที่งอกขึ้นมา ต้องเกิดผลและเป็นจริงเสมอ”
ใน1ยน.2:19 ยังเตือนว่า “ผู้ที่เคยอยู่ท่ามกลางเรานั้น เขาอาจกลับมาหว่านเมล็ดพันธ์ที่ผิดให้กับเราก็ได้ เพราะเขาไม่สามารถทำตามพระวจนะอย่างแท้จริงได้ เขาจะเลือกทำตามที่เขาอยากทำ ซึ่งมันอาจโดนใจเรา และก็หลงเชื่อไปด้วย”
(ยูดา 4 -มีผู้สอนเท็จแฝงอยู่ท่ามกลางเรา, 2 ปต.2:1 -มีผู้เผยจริง ก็จะมีผู้เผยเท็จด้วยเช่นกัน) ส่วนสาเหตุที่ทำให้พวกเขาสอนท็จคือ
- เขาชอบทำตามเนื้อหนัง ตามอำเภอใจ เขาไม่ชอบอยู่ใต้สิทธิอำนาจของใคร แต่ปากเขาชอบพูดว่าเขาเชื่อฟังพระเจ้าเท่านั้น (2ปต2:10, ยูดา 4) ดังนั้นถ้าเรายังอยากทำอะไรที่ตามใจตัวเอง และไม่ยอมเชื่อฟังสิทธิอำนาจของพระเจ้า เรามีแนวโน้มเป็นเทียมเท็จได้มาก
- เขาชอบเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ชอบการยกชูขึ้น อยากเป็นคนที่วิเศษ วิญญาณของลูสิเฟอร์แฝงอยู่ในชีวิตของพวกเขา (ยูดา 6, 16)
- เขามีบาปและตัณหารวมถึงความโลภในชีวิตของเขา และไม่ยอมเลิกหรือกำจัดออกไป สุดท้ายชึวิตของเขาก็ถูกทำลายจากบาปของเขา (ยก. 1:14, 2ปต.2:3,15)
- เขาชอบในการล่อลวง หลอกลวง ชอบโกหกตัวเอง ไม่ยอมอยู่ในความจริงในพระวจนะของพระเจ้า เช่น ชอบอ่านเรื่องโกหก (2ธส2:3)
- เขาเป็นเหมือนเมฆที่ไม่มีฝน ให้ความหวังคนอื่นมากมาย แต่ไม่เคยทำตามได้อย่างที่พูด พฤติกรรมกับคำพูดไม่สอดคล้องกัน(ยูดา 12)
- เขามีชีวิตที่ไม่ชอบอยู่ในวงจร ไม่ชอบอยู่ในระบบระเบียบ ชอบออกนอกลู่นอกทางของพระเจ้า (ยูดา 13)
- เขาดูเป็นคนเหมือนเกิดผล แต่ไม่จิรังยืนนาน อาจเลิกเชื่อหรือเลิกรับใช้ เริ่มต้นอาจดูดีน่าตื่นเต้น แต่หลังอาจล้มเหลว (ยน.15:16)
จากพระวจนะข้างต้น พระเยซูคริสต์สอนเราให้ดูชีวิต, พฤติกรรมและการกระทำของพวกเขาเหล่านั้นที่สั่งสอนออกมา เปรียบกับต้นไม้จะรู้ว่าเป็นต้นอะไรก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์ จากการเกิดผลของมันออกมา เช่นเดียวกันอาจมีผู้สอน ผู้เผย หรือผู้ทำการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่นำคนมากมายมาเชื่อพระเจ้า แต่บั้นปลายอาจล้มลงและพินาศถ้าเขาเหล่านั้นยังปล่อยชีวิตให้ติดกับความบาปทั้งหลายที่เขายังรัก และไม่ยอมเชื่อฟังพระคริสต์ และก็เริ่มสอนผิด ๆ บิดเบือนพระวจนะเข้าข้างตัวเอง และพาคนให้หลงผิดตามพวกเขาไป
ส่วนคริสเตียนที่แท้จริงและเชื่อฟังพระคริสต์นั้น ก็ต้องยอมเปิดเผยตัวเอง ไม่แอบแฝง กล้าให้พิสูจน์ มีชีวิตที่ประพฤติเหมือนกันในทุก ๆ ที่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ยอมอยู่ในกฎระเบียบของพระเจ้า รักษาความเชื่อคงเส้นคงวาจนถึงบั้นปลาย
สุดท้ายเราจะปกป้องชีวิตเราให้ปลอดภัยจากการถูกหลอกโดยการสร้างชีวิตของเราด้วยพระวจนะแห่งความจริงของพระเจ้า เชื่อฟังพระองค์ทุกประการ จงอธิษฐานด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และอธิษฐานทุกรูปแบบ ตลอดเวลา ถ้าอธิษฐานมาก ชีวิตก็รับชัยชนะมาก (ยูดา 20, อฟ.6:18, ยน.15:7,14, มธ.16:17) จงดำรงชีวิตในความรักของพระเจ้า ซึ่งจะสำแดงออกมาคือ 1. รักที่จะปฎิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้า (ยูดา21) 2. จงรักพี่น้องทุกคนในคจ.ของตน (1ยน.4:20-21) 3. จงดูแลใส่ใจลูกแกะของพระเจ้า(ผู้เชื่อใหม่) (ยน.21:15-19) 4. จงรอคอยการกลับมาของพระคริสต์อย่างกระตือรือร้นเสมอ (ยก.5:7-8) 5. จงปรนนิบัติพระเจ้าอย่างเต็มที่ บริบูรณ์ทุกเวลา (1คร.15:58) ถ้าปฎิบัติตามนี้ท่านจะไม่หลงจากทางแห่งความจริงของพระเจ้าได้เลย ขอพระเจ้าทรงอวยพรค่ะ
