ฮีบรู 10:30-31

เมื่อผู้ที่รับความรอดแล้ว จะต้องระมัดระวังการดำเนินชีวิตด้วย มิใช่รอดแล้วจะดำเนินชีวิตอย่างไรก็ได้

                 ข้อ  30 เพราะเรารู้จักพระองค์ผู้ได้ตรัสว่า   การแก้แค้นเป็นของเรา  เราจะตอบสนอง   และได้ตรัสอีกว่า   องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิพากษาชนชาติของพระองค์  พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรักผู้ทรงพิพากษาและพระเจ้าแห่งการแก้แค้น (ฉธบ.32:35-36,สดด.94:1) คต.ก็ไม่ถูกละเว้นในการถูกพระเจ้าแก้แค้นพระเจ้าทรงยุติธรรมกับทุกคน คต.ไม่ใช่แต่จะรับพระพรอย่างเดียวและถือเอาพระคุณมาทำบาป ตัวอย่างของพระคัมภีร์มี 2 ด้าน เช่น ยาโคบ ยาโคบเป็นผู้ที่แย่งพระพรบุตรหัวปี ตามธรรมเนียมยิวที่ผู้เป็นพ่ออวยพรก็จะเป็นตามนั้น ที่ตกทอดไปถึงลูกๆ(12 เผ่า) ของยาโคบ(อิสราเอล) ในปัจจุบันพ่อทุกๆคนที่ได้พูดสิ่งดีๆกับลูกก็จะเป็นตามนั้น  บทเรียนของยาโคบ เมื่อเขาได้แย่งพระพรบุตรหัวปีจากเอซาว เขาก็ถูกแยกออกไปอยู่กับลุงๆเป็นคนที่นิสัยไม่ดีคดโกงยาโคบด้วย  ดังนั้นทำให้เห็นถึงสิ่งแรกที่ยาโคบต้องเก็บเกี่ยว กลับมาพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราบางครั้งมีปัญหาไม่จบสิ้นเราต้องค้นดูว่าได้ระมัดระวังชีวิตในเรื่องนั้นหรือไม่ และเมื่อพิจารณาอย่างไม่เข้าข้างตนเอง จะเห็นว่าพระเจ้าเป็นผู้แก้แค้นให้และแก้แค้นเรา  ใน ปฐก.32:22-32,33:1-5 อีกด้านที่ยาโคบต้องรับผลในสิ่งที่ตนทำที่ดูเหมือนไม่ดีคือเขากลายเป็นคนเดินกะเผกตลอดชีวิต(เขาได้ปล้ำสู้กับพระเจ้า)พระเจ้าทรงตีสอนเพราะรักเขาๆเป็นคนที่ใช้ได้เขาได้กลายเป็นคนใหม่มีความถ่อมใจและได้คืนดีกับพี่ชายในที่สุด

2 ด้านที่พระคัมภีร์กล่าวถึงคือ  1.  ยาโคบโกงพี่ชายเรื่องพระพรบุตรหัวปีจึงต้องไปอยู่กับลุงที่นิสัยชอบโกงเหมือนกัน(ปฐก.29)

  1. ยาโคบได้ปล้ำสู้กับพระเจ้าแล้วเขาได้กลายเป็นคนเดินขากระเผกและก็เป็นคนมีนิสัยใหม่

ใช้ในชีวิต  เราไม่ต้องถึงกับเจออะไรสุดๆในชีวิตแล้วค่อยเปลี่ยน แต่ขอให้มีการสารภาพกลับใจเพราะเมื่อเราทำบาปแล้วกลับใจไม่ทำอีก เราก็จะเป็นคนที่พระเจ้าใช้ได้  ไม่เพียงแค่บาปที่ดูเลวร้ายเท่านั้นยังมีบาปที่เราไม่คิดว่าเป็นบาปเช่น อาการน้อยใจนิดๆ พูดจาไม่เข้าหู สิ่งเหล่านี้พระเจ้าก็ไม่ปรารถนาให้เรามีในชีวิต เพราะบาปจะมีการพัฒนาถ้าเรายังไม่รู้ไม่กลับใจ ชีวิตจะมีฤทธิ์เดชเท่าใดขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราพูดด้วยเพราะพระธรรมยากอบพูดถึงเรื่องปาก ว่า

บ่อน้ำพุจะมีน้ำจืดและน้ำกร่อยพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ (ยก.3:11)

พระเจ้าก็มีการพิพากษาในโลกนี้ด้วย เพราะ อย่าหลงเลย   ท่านจะหลอกลวงพระเจ้าไม่ได้   เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง   ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น ผู้ที่หว่านในย่านเนื้อหนังของตน   ก็จะเกี่ยวเก็บความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น   แต่ผู้ที่หว่านในย่านพระวิญญาณ   ก็จะเกี่ยวเก็บชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น ข้อควรระวัง สำหรับคต.คิดว่าคนที่ทำบาปทำไมยังอยู่สบายนั่นอาจหมายถึง พระเจ้าปล่อยเขาแล้ว แต่ต้องดูที่บั้นปลาย พระเจ้าไม่ปล่อยไว้แน่ พระเจ้าทรงเป็นความรักทรงเข้มงวดทรงตอบแทนทั้งดีและไม่ดี (สดด.135:14,อสย.65:5,อสย.66:6,อบด.15)  ตัวอย่างของอิสราเอล ที่พระเจ้าทรงตอบสนอง ไม่มีการทำดีเพื่อที่จะสามารถทำบาป

ข้อ 31 การตกอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์นั้นเป็นที่น่าหวาดกลัว พระหัตถ์ของพระเจ้าทรงน่ากลัว (อพย.7:5,ฉธบ.2:15,1ซมอ.5:6,สดด.32:4,กจ.13:11 กับผู้ที่ทำบาป เมื่อดาวิดทำบาปแล้วกลับใจเขาเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้า  มีพระหัตถ์ที่หนักหน่วงเกิดขึ้นกับคนของพระเจ้าทั้งพระพรและการลงโทษ พระเจ้าทรงจัดการแน่นอนและทรงรัก  เมื่อเรายอมอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าๆจะทรงแทรกแทรงในชีวิตทุกด้าน และบางครั้งดูเหมือนเสียเปรียบ แต่ให้มองดูที่พระเจ้าแล้วจะเห็นความช่วยเหลือของพระเจ้า เมื่อเรายอม ไม่ต้องแก้แค้นเอง แต่จงสำรวจชีวิตตนเองตรวจดูว่ายังอยู่ในถ้อยคำหรือไม่ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ เที่ยงธรรม ยุติธรรม  เพราะถ้าพระเจ้าแก้แค้นพระองค์จะแก้แค้นอย่างสาสม (อสร.8:18,สดด.37:24,สดด.104:28) ให้พระหัตถ์ของพระเจ้าพร้อมที่จะอวยพรเรา พระเจ้าทรงแก้แค้นแทนเราดีกว่าให้พระเจ้าแก้แค้นเราแทน……….ขอพระเจ้าทรงอวยพร